จากไวน์และวิสกี้ สู่ ‘BOSS COFFEE’ กาแฟพร้อมดื่มสุด-ฮิ-ต-ของญี่ปุ่น
เมื่อเดินเข้าร้านสะดวกซื้อ เราจะเริ่มเห็นกาแฟขวดพอดีมือที่มีภาพขาว-ดำของชายไว้หนวดผู้ผ่านวัยเยาว์มาหลายทศวรรษ พร้อมอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ ‘BOSS COFFEE’ ล้อมรอบเป็นวงกลม
แวบแรกที่เห็น ผู้เขียนเกือบจะคิดว่าเป็นกาแฟพร้อมดื่มจากฝั่งตะวันตก จนสะดุดตากับข้อความ ‘แบรนด์กาแฟพร้อมดื่ม No1 ในญี่ปุ่น’ พร้อมข้อมูลการก่อตั้งที่เริ่มตั้งแต่ปี 1992 และคำว่า ‘Flash Brew’ ที่ไม่ค่อยปรากฏให้เห็นบนฉลากกาแฟพร้อมดื่มในประเทศไทย
ข้อความบนขวดกาแฟ กลายเป็นกุญแจไขประตูความสงสัยให้เราได้ย้อนไปค้นหาเรื่องราวเบื้องหลังของกาแฟแบรนด์นี้จนพบว่า BOSS COFFEE เริ่มต้นมาจากร้านเล็ก ๆ ของชายผู้-ค-ลั่-ง-ไ-ค-ล้-และตั้งใจจะรังสรรค์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์สไตล์ตะวันตกให้เหมาะกับรสนิยมของคนญี่ปุ่น โดยชายคนนี้มีชื่อว่า ‘ชินจิโร โทริอิ’ (Shinjiro Torii)
ย้อนไปในปี 1899 ชินจิโร โทริอิ เปิดร้าน-ข-า-ย-ไ-ว-น์และ-สุ-ร-า-แบบตะวันตกในประเทศญี่ปุ่น แต่ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก ช่วงเวลานั้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่าง-ไ-ว-น์-และ-วิ-ส-กี้-มักจะถูกนำเข้ามาจากประเทศอันไกลโพ้นอีกฟากหนึ่งของมหาสมุทร
ขณะที่ความฝันของชินจิโร คือการผลิตเครื่องดื่มเหล่านี้ให้มีคุณภาพดีและรสสัมผัสถูกใจชาวญี่ปุ่น โดยผลิตจากฝีมือของคนญี่ปุ่นเอง
ชินจิโรจึงทำ-ธุ-ร-กิ-จ-นำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากต่างประเทศ ไปพร้อมกับพัฒนาสูตร-ไ-ว-น์-ของตนเอง จนสามารถผลิตไวน์ ‘Akadama Port Wine’ ได้สำเร็จในปี 1907 (ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น Akadama Sweet Wine ในปี 1973)
ตามด้วยการคิดค้นสูตรวิสกี้ Kakubin ที่ผสมผสานรสชาติแบบญี่ปุ่นอย่างที่เขาใฝ่ฝัน โดยทั้งไวน์และวิสกี้นี้ค่อย ๆ ซึมซับเข้าไปอยู่ในหัวใจของคนญี่ปุ่นทีละน้อยจนประสบความสำเร็จได้ในที่สุด
ต่อมาในปี 1923 ชินจิโรเปิดตัว Yamazaki โรงก-ลั่-น-วิ-ส-กี้-มอลต์แห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะเปิดโรง-ก-ลั่-น-ไ-ว-น์ Tomi No Oka ในปี 1936 แล้วส่งต่อ-บ-ริ-ษั-ท-ให้กับผู้บริหารรุ่นถัดไป
หลังจากนั้น-บ-ริ-ษั-ท-ของเขาได้ขยับขยายไปผลิต-เ-บี-ย-ร์ รวมทั้งเปลี่ยนชื่อจาก Kotobukiya Limited มาเป็น Suntory Limited ในปี 1963 และใช้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน
Suntory ดำเนินกิจการมาพักใหญ่จนกลายเป็น-บ-ริ-ษั-ท-ที่ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องดื่ม-แ-อ-ล-ก-อ-ฮ-อ-ล์ แต่ Suntory ไม่ได้หยุดความสำเร็จอยู่เพียงเท่านั้น แถมยังตั้งเป้าว่าจะขยายไปสู่เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์อย่างจริงจัง โดยเฉพาะช่วงปี 1990 เป็นต้นมา
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ ‘BOSS COFFEE’ กาแฟแบบพร้อมดื่ม (Ready-to-Drink) ที่ถือกำเนิดขึ้นในปี 1992
แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน จะเป็นเครื่องดื่ม-แ-อ-ล-ก-อ-ฮ-อ-ล์-หรือไม่ สิ่งที่มีร่วมกันของทุกแบรนด์ภายใต้เครือ Suntory คงจะเป็นค่านิยมองค์กร ‘Yatte Minahare’ ที่ส่งต่อมาจากยุคสมัยของชินจิโร
ซึ่ง ‘Yatte Minahare’ หมายถึงการมีจิตวิญญาณที่กล้าลงมือทำและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ซึ่งสะท้อนผ่านสินค้าหลากหลายของ Suntory ตั้งแต่ไวน์ วิสกี้ เบียร์ ชา ไปจนถึง BOSS COFFEE
BOSS COFFEE คู่หูของคนทำงาน หากย้อนไปในยุค 1950s เทคโนโลยีตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติในญี่ปุ่นได้พัฒนา จนเริ่มมีกาแฟกระป๋องวางจำหน่ายในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแน่นอนว่ามีแบรนด์กาแฟพร้อมดื่มที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้า BOSS COFFEE อยู่แล้ว
แต่ในที่สุด Suntory สามารถผลักดันให้แบรนด์นี้ กลายเป็นกาแฟ พร้อมดื่มสุด-ฮิ-ต-ที่มียอด-ข-า-ย-อันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น โดยมียอด-ข-า-ย-ประมาณ 324 ล.กระป๋องต่อปี แถมยังขยับขยายสู่ประเทศอื่น ๆ อย่างสหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ไทย และอีกหลายประเทศทั่วโลก
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ BOSS COFFEE เริ่มมีชื่อเสียงทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ คงเพราะการปรากฏตัวของดาราฮอลลีวูดอย่าง ‘ทอมมี ลี โจนส์’ (Tommy Lee Jones) ในโฆษณาของ BOSS COFFEE และภาพลักษณ์ความเป็นอเมริกันจากโลโก้ชายไว้หนวด-สู-บ-ไปป์ที่คล้ายกับภาพนักเขียนชาวอเมริกันอย่าง ‘วิลเลียม โฟล์คเนอร์’ (William Faulkner)
อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้ทวิตเตอร์แอคเคานท์ @Mulboyne กล่าวว่า แท้จริงแล้ว Hiroyuki Ishiura นักออกแบบใน Suntory ได้คิดโลโก้นี้ขึ้นมา เพื่อแสดงถึงภาพลักษณ์ของ ‘เจ้านายในอุดมคติ’ และไม่ได้อิงจากใครคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ BOSS COFFEE บางขวด อย่างในประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รวมทั้งประเทศไทย กลับไม่ได้เป็นภาพชายสูบไปป์ แต่เป็นโลโก้ชายวัยกลางคนที่มีหนวดเคราเพียงเท่านั้น
แม้ว่าภาพลักษณ์ดังกล่าวจะทำให้ BOSS COFFEE เป็นที่รู้จัก แต่แน่นอนว่า-โ-ฆ-ษ-ณ-า โลโก้ หรือข้อความ ‘อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น’ คงไม่ได้เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ BOSS COFFEE สามารถส่งต่อรสชาติกาแฟสไตล์ญี่ปุ่นไปยังประเทศต่าง ๆ มาเกือบ 3 ทศวรรษ เช่นเดียวกับที่ชินจิโรเคยกล่าวไว้ว่า
“คุณสามารถโฆษณาเยอะแค่ไหนก็ได้หากคุณต้องการ แต่สุดท้ายมันก็ไม่มีประโยชน์ หากคุณไม่มีสินค้าที่ดี คุณจะไม่สามารถมั่นใจในโฆษณาชิ้นนั้นได้ และหาก-ลู-ก-ค้าของคุณเริ่มบอกว่าคุณก็ดีแต่พูด มันก็จบเห่ ดังนั้นคุณต้องเริ่มจากการผลิตสินค้าที่ดีจริง ๆ”
ดังนั้นจุด-ข-า-ย-จริง ๆ ของ BOSS COFFEE คือกรรมวิธีการผลิตกาแฟแบบ Flash Brew ที่มีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่น โดย Flash Brew จะคล้ายกับกระบวนการทำกาแฟแบบ Cold Brew แต่สกัดด้วยน้ำร้อน ซึ่งจะหยดลงในน้ำแข็งด้านล่าง ทำให้สามารถสกัดสารประกอบจากกาแฟออกมาเข้มข้นกว่า Cold Brew ในเวลาอันรวดเร็วกว่า พร้อมรสชาติที่ละมุน ดื่มง่าย
BOSS COFFEE จึงกลายเป็นแบรนด์กาแฟพร้อมดื่มแบบพรีเมียมที่มาพร้อมความความสะดวก รวดเร็ว ในราคาที่จั-บต้องได้ แถมยังมีจุด-ข-า-ย-เรื่องน้ำตาลน้อย เหมาะกับคนรักกาแฟที่ใส่ใจสุขภาพ จึงไม่น่าแปลกใจที่ BOSS COFFEE จะกลายเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้คนวัยทำงานในญี่ปุ่นที่ต้องการเติมพลังในช่วงเวลาอันแสนเร่งรีบ
สำหรับประเทศไทย BOSS COFFEE นับเป็นกาแฟพร้อมดื่มแบบ Flash Brew เจ้าแรก ๆ เพราะเพิ่งจะมีจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อปลายปี 2021 แต่จะสามารถครองใจคนทำงานได้แบบในญี่ปุ่นหรือไม่นั้น ก็คงต้องติดตามกันต่อไป
ที่มา : thepeople ,thomasthailand ,thansettakij ,bangkokbiznews ,suntorypepsico