X

ผู้หญิงที่พิสูจน์ตัวเอง จนกลายเป็นแรงบันดาลใจ

โอปอล์ – ปาณิสรา ผู้หญิงที่พิสูจน์ตัวเองจนกลายเป็นแรงบันดาลใจของคนทั่วประเทศ

โอปอล์ – ปาณิสรา เกิดวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2524 ปัจจุบันอายุ 40 ปี โอปอล์มีผลงานที่โดดเด่นทั้งเบื้องหน้าและเยื้องหลัง โดยโอปอล์เป็นนักแสดงแสดงในสังกัด GTH และได้มีผลงานแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ แจ๋ว หลังจากนั้นก็ได้มีผลงานภาพยนตร์ตามออกมาอีกหลายเรื่อง

โอปอล์ เรียนจบระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนราชินีบน และเข้าศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา(ต.อ.รุ่น 60) แผนอังกฤษ-ฝรั่งเศส (เกรดเฉลี่ยแต่ละเทอมสูงมากๆ)

เมื่อต้องเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษา โอปอล์เลือกเอ็นทรานเข้าศึกษาต่อที่ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิชาเอกการประชาสัมพันธ์ และจบการศึกษาด้วย เกียรตินิยมอันดับ 2

ในส่วนงานเบื้องหลัง โอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล ได้รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ร่วมกับเพื่อน ๆ จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสร้างซิทคอมเรื่อง เนื้อคู่ประตูถัดไป ให้ GTH ซึ่งเธอก็ได้แสดงในเรื่องนี้ด้วย และโอปอล์ยังเคยเป็นดีเจของ Atime Media อีกด้วย

นอกจากงานในวงการบันเทิง โอปอล์ยังเป็นเจ้าของธุรกิจ โดยเธอดูแลบริษัท นางแมวป่า ซึ่งเป็น Online Agency และ Production House และ บริษัท โอกาแฟ ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย Skin Care ในนาม โอปโซพ

โอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล เป็นบุตรของนายชิน สรรพประเสริฐ และนางพนิตา สรรพประเสริฐ มีพี่น้อง 3 คน โอปอล์แต่งงานกับ โอ๊ค สมิทธิ์ อารยะสกุล แพทย์และนักแสดงชื่อดัง เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2557 ปัจจุบันทั้งคู่มีบุตร-ธิดา 2 คน เปิดแฝดชายหญิงชื่ออลินและอลัน จนกลายเป็นที่ยอมรับของสังคม

“แรงบันดาลใจ” คงจะเป็นคำที่สั้นที่สุดที่สามารถนิยามโอปอล์ – ปาณิสรา อารยะสกุล หญิงเก่งที่กลายเป็นไอดอลของคนทั้งประเทศ ณ ขณะนี้ได้ แต่กว่าที่เธอจะประสบความสำเร็จแบบในทุกวันนี้บททดสอบที่เธอผ่านมานั้นเรียกได้ว่าหนักหนาพอสมควร ซึ่งถ้าไม่มีหัวใจที่แข็งแกร่งจริง คงผ่านอุปสรรคเหล่านี้ได้ยาก

ตั้งแต่ที่คนไทยรับค่านิยมจากตะวันตก รวมถึงจากละครในโทรทัศน์ ว่าคนผิวขาวเท่ากับคนสวย คนดูดีนั้น คนผิวธรรมชาติสีน้ำผึ้งแบบไทยแท้ก็กลายเป็นสิ่งตรงข้ามในสังคมโดยทันที สิ่งต่างๆ เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อใครหลายๆ คนไปทั่ว รวมถึงเด็กหญิงที่ชื่อโอปอล์ด้วยเช่นกัน

โอปอล์ – ปาณิสรา เคยเล่าถึงประเด็นการล้อเลียนเรื่องสีผิวของเธอเมื่อครั้งเธออยู่เพียงแค่ ป. 3 ในรายการโทรทัศน์ว่า “ช่วงที่ช่อง 7 มีละครเรื่องข้าวนอกนา ช่วงนั้นคือสุดจริงๆ การโดนวิ่งรอบตัวแล้วพูดว่า ข้าวนอกนา อีดำตับเป็ด มีร้องไห้ หลังจากนั้นรู้สึกชินมาก เวลาโดนคนล้อเรื่องดำ อ้วน หน้าเหลี่ยม เรายอมรับว่ามันใช่ ก็ไม่โกรธ และมาโดนอีกทีตอนเข้าวงการ”

ซึ่งก่อนที่จะเริ่ม Channel YouTube นางแมวป่า แม่โอปอล์ได้ทำธุรกิจเครื่องดื่ม O’s Coffee มาตั้งแต่ปี 2006 แล้วค่ะ โดยแบรนด์นี้ก็เริ่มมาจากที่แม่โอปอล์ชอบดื่มกาแฟ เรียกง่าย ๆ ว่าเสียเงินไปกับสิ่งนี้เยอะมากกกก

ก็เลยตัดสินใจกับน้องชายทำร้านกาแฟเล็ก ๆ ขึ้นมาเอง โดยสิ่งที่แม่โอปอล์ทำนั้นจะมาจาก Passion แล้วหลังจากนั้นค่อยมาปรับกันว่าจะทำอะไรต่อ ซึ่งในช่วงหลังก็จะมีขนมกรุบกริบมาเสริม กินคู่กาแฟเกร๋ ๆ ค่ะ

โดย O’s Coffee สาขาแรกเริ่มจากสาขาสยาม ซอยจุฬา 42 ซึ่งในช่วงนั้นใคร ๆ ก็ฮิตเข้าร้านกาแฟเป็นว่าเล่น และเป็นธุรกิจที่บูมมาก ๆ ใครที่ทำธุรกิจนี้ต้องระวังตัวค่ะ เพราะบูมเร็วเจ๊งเร็วกันหลายเจ้า แต่ด้วยความที่แม่โอปอล์ก็ตั้งคอนเซปต์ไว้ชัดเจน

ร้านคัดสรรใช้วัตถุดิบชั้นเยี่ยม แต่ราคาเอื้อมถึง โดยราคาเครื่องดื่มอยู่ที่ 50-70 บาท (มนุษย์ชาวออฟจ่ายได้!) แถมเลือกระดับความหวานได้ด้วย การบริการก็ดีสร้างความประทับใจให้ลูกค้าหลายราย

เมื่อคุณแม่โอปอล์ได้เริ่มธุรกิจกาแฟ แน่นอนว่ามันต้องมีของเหลือ สิ่งนั้นคือ กากกาแฟ นั่นเอง มันเอาไปทำอะไรได้บ้าง มีวันหนึ่งลูกค้าบอกว่ากากกาแฟเนี่ยเอาไปขัดผิวดีนะ แม่ปอล์เลยไปลองขัดผิวดู แล้วผลที่ได้คือผิวมันเนียนขึ้นจริง ๆ

แม่เลยคิดว่าถ้าต่อยอดทำจำหน่ายจะมีคนซื้อไหม ก็เลยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับพี่โอ๊คที่เป็นหมอผิวหนัง เอาเข้าห้องแล็บจริงจัง ผลที่ได้คือเฟล การทำใช้เองกับทำจำหน่ายมันต่างกันเยอะ เพราะกากกาแฟเมื่อปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ มันจะขึ้นรา

แต่แม่โอปอล์ก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจค่ะ ก็หาวิธีไปเรื่อย ๆ จนค้นพบว่า อราบิก้า ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟคั่วบด คือคำตอบของปัญหานี้ เมื่อได้วัตถุดิบตั้งต้น จากนั้นก็เอาเชียร์บัตเตอร์ น้ำมันรำข้าวใส่ลงไปเพื่อเป็นการบำรุงผิวลงไปด้วย โดยใช้เวลาพัฒนาถึงสองปีถึงสำเร็จ

แต่ด้วยความที่ทำสบู่ด้วย Passion ไม่ใช่เรื่องเงิน ช่องทางการจำหน่ายจึงจำหน่ายแค่หน้าร้าน O’s Coffee 5 สาขาเท่านั้น โอปอล์และน้องชายเป็นแอดมินเพจเอง ทำคอนเทนต์เอง ตอบเม้นเอง โดย Oab’s Soap ลอตแรกแม่โอปอล์หวังว่ามันจะเป็นสต๊อกที่เอาไว้จำหน่ายสำหรับ 1 ปี แต่พอถึงเวลาจริงมันกลับจำหน่ายหมดภายใน 1 สัปดาห์ ด้วยพลังแห่งการตลาดที่ทรงพลังที่สุด “การบอกแบบปากต่อปาก”

จากการทำสบู่แบบไม่จริงจัง ตอนนี้ Oab’s Soap ได้กลายเป็นแบรนด์สบู่ที่มีช่องทางจัดจำหน่ายทั่วประเทศจนได้รับการการันตีจากกระทรวงพาณิชย์ให้เป็น 1 ใน 10 ของ Top Thai Brand ที่ถูกคัดเลือกให้ออกไปเปิดตลาดที่ลาวและพม่า แถมได้รับการันตีจากกระทรวงพาณิชย์ และรางวัล BEST OF THE BEST SOAP จาก CLEO Beauty Hall Of Fame 2018 โอ้ย ปังมากแม่!

เห็นแม่ทำหลายอย่าง แต่มันก็ไม่จบค่ะ ธุรกิจล่าสุดเมื่อปี 2017 โอปอล์ได้ร่วมมือกับป้าตือ ด้วยการนำเข้าผลไม้จากญี่ปุ่น ภายใต้แบรนด์ที่ชื่อว่า “Wa Theater” ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกิดจากความอยากให้ลูกแฝดได้กินผลไม้ดี ๆ ตลอดปี

และนี่คือความสำเร็จของแม่โอปอล์ ที่นอกจากจะเลี้ยงลูกได้เป๊ะปังเพอร์เฟก ดูแลสามีได้ไม่ขาดตกบกพร่อง การสร้างธุรกิจเพื่ออนาคตของแม่ยังเด็ดขาดและมีความก้าวหน้ามาก ๆ ที่จำหน่ายดีไม่ใช่เป็นเพราะดาราหรือความมีชื่อเสียง แต่เพราะของมีคุณภาพ การบริหารที่ตรงจุด และการไม่หยุดอยู่กับที่ของแม่ปอล์ คือจุดขับเคลื่อนนั่นเองค่ะ

ที่มา : entertainment ,sanook ,gqthailand ,punpro

Related Posts

เปิดบ้านแสนสุข “ติ๊ก กลิ่นสี” กับของสะสมที่รักมาก 

เปิดบ้านแสนสุข “ติ๊ก …

“มาดามแป้ง นวลพรรณ” เปิดคฤหาสน์สุดใหญ่โตโอ่อ่า อลังการ

“มาดามแป้ง นวลพรรณ&#8…

ส่องบ้าน! “บัวขาว บัญชาเมฆ” ยอดมวยไทยที่เชียงใหม่ (ภาพ)

ส่องบ้าน! “บัวขาว บัญ…

“ซานิ” กับของสะสมของเธอมีเยอะมากใส่ยังไงก็ไหว

“ซานิ” กับของสะ…

เปิดบ้านขุมทรัพย์ “พีช อีท แหลก” เจ้าพ่อแห่งวงการ “การกิน”

เปิดบ้านขุมทรัพย์ “พี…

เปิดบ้าน “หมอปลาย พรายกระซิบ” ฮวงจุ้ยตัดเต็ม

เปิดบ้าน “หมอปลาย พรา…