อาชีพเสริมในวันที่อาชีพหลักไม่มั่นคง แบรนด์ Mulmul Cabinet เสื้อผ้าแฮนด์เมด
หลายคนที่มีงานประจำและมีงานเสริมควบคู่กันไปด้วย ไม่ว่าเพื่อหวังจะหารายได้เพิ่ม หรือเพื่อตอบสนองความชอบส่วนตัว แต่อย่างน้อยหากวันใดที่มีอันต้องโบกมือลา จากงานประจำแบบไม่ทันตั้งตัวก็จะมีงานสำรอง ที่สุดท้ายอาจพลิกเป็นอาชีพหลักไปเลยก็ได้
เช่นเดียวกันกับ อ้อม-กุลภดามาศ เส็งประชา เจ้าของ Mulmul Cabinet แบรนด์เสื้อผ้าแฮนด์เมดที่เกิดจากความหลงใหลในศิลปะของลวดลายบนผ้าฝ้าย
จุดเริ่มต้นที่ทำให้กุลภดามาศตัดสินใจสร้างแบรนด์ Mulmul Cabinet ขึ้นมา เกิดจากตอนที่เธอกำลังทำงานประจำเป็นลูกเรือของสายการบิน แม้ว่าจะดูเป็นงานที่ใคร ๆ ต่างบอกว่าได้เงินดี แต่การทำงานเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของตัวเอง
การลางานไปหลายอาทิตย์ เพราะเกิดป่วยขึ้นมาทำให้ขาดรายได้ ตรงนี้เองที่ทำให้เธอรู้สึกได้ว่างานประจำที่ว่ามั่นคงนั้น จริงๆ แล้วก็ไม่ได้มั่นคง เลยตัดสินใจมองหาอะไรทำเพิ่มเติมเป็นงานเสริม ซึ่งด้วยความที่เธอเองอยากจะมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง
ขณะเดียวกันการเรียนจบด้านศิลปะและยังมีความผูกพันหลงใหลกับงานศิลปะ จึงทำให้เธอตัดสินใจสร้างแบรนด์ Mulmul Cabinet ขึ้นมา
ความโดดเด่นของแบรนด์ Mulmul Cabinet ไม่ใช่แค่เพียงเนื้อผ้าที่ใส่สบายแต่ยังรวมไปถึงลวดลายของผ้าแต่ละตัวที่เธอเป็นคนออกแบบมันขึ้นมาเองที่มีความร่วมสมัย กุลภดามาศเล่าว่า
“เริ่มแรกที่เปิดแบรนด์ได้ลองไปซื้อผ้าฝ้ายที่มีลวดลายอยู่แล้ว ลองเอามาดัดแปลงตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าแล้ววางขาย ปรากฏว่าขายได้ แต่พอทำไปทำมาได้ 1 ปี ทุกอย่างก็เริ่มตัน จึงลงมือออกแบบลายเอง งานทุกชิ้นเป็นงานทำมือหมด ทั้งการพิมพ์ลายและการตัดเย็บ
โดยคนที่เป็นช่างตัดเย็บให้นั้นคือคุณยาย ทำให้เสื้อผ้าแต่ละตัวนั้นมีกระบวนการผลิตที่ละเอียด และมีความใส่ใจสูง นอกจากพวกเสื้อผ้าแล้ว ยังต่อยอดด้วยการนำเศษผ้าที่เหลือจากการตัดเย็บเสื้อผ้ามาทำเป็นอย่างอื่นที่สามารถใช้งานได้
อย่างเช่น กระเป๋าผ้า หรือเฮดแบนด์เอาไว้ใส่ให้แมตช์กับลายเสื้อผ้าที่พอทำออกมาแล้วค่อนข้างจะเป็นตัวที่ขายดีมาก”
ในการเริ่มทำการตลาด กุลภดามาศเลือกที่จะทำการตลาดผ่าน Pinkoi ซึ่งเป็นการเจาะตลาดฮ่องกง ไต้หวันก่อนประเทศไทย โดยเธอให้เหตุผลว่าเพราะลูกค้าเหล่านั้นชอบงานแฮนด์เมดและมีกำลังซื้อสูง
ซึ่งเธอจะศึกษาเทรนด์และพฤติกรรมของลูกค้าสองประเทศนี้อยู่ตลอด ทำให้ปรับงานให้ร่วมสมัยตามเทรนด์อยู่เสมอ จนทำให้เธอได้ลูกค้าประจำที่ชอบมาซื้อซ้ำอยู่บ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อทั่วโลกเข้าสู่ช่วงวิกฤตครั้งยิ่งใหญ่จากโรคระบาดโควิด-19 งานเสริมก็ได้กลายมาเป็นงานหลักของเธอแบบเต็มตัว เมื่อเธอตัดสินใจก้าวเดินออกมาจากงานประจำ แล้วมาลงทุนลงแรงกับแบรนด์ Mulmul Cabinet อย่างเต็มกำลัง
ซึ่งนับเป็นความโชคดีของเธอเพราะงานเสริมที่กลายมาเป็นงานหลักนี้กลับยิ่งเติบโต และแม้จะเจอสถานการณ์วิกฤตCD-19 แบรนด์ Mulmul Cabinet ของเธอกลับขายดีมากขึ้นกว่าช่วงสถานการณ์ปกติอีกด้วยซ้ำไป
ไม่เพียงเท่านั้นยังรู้สึกสบายใจและสนุกไปกับงานตรงนี้แบบไม่ต้องห่วงอะไรอีกด้วย
“มีคนอีกมากมายที่รู้สึกหมดแพสชั่นไปกับงานประจำที่ทำอยู่ การจะออกจากงานไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างน้อยก็ต้องมีอาชีพสำรองเอาไว้ งานเสริมเองก็ช่วยเรื่องรายได้ไว้มาก ถึงแม้ว่าการทำงานพวกนี้มันอาจมาจากเหตุผลที่ดูธรรมดาอย่างใจรักหรือว่าแพสชั่น
แต่การค้นพบงานที่ชอบมันทำให้เราสนุกไปกับการทำงานในแต่ละวัน ต่อให้เราเจอปัญหาอะไรไม่ว่าจะหนักหรือจะเบา เราก็พร้อมที่จะลงมือแก้ไขอย่างเต็มที่ พอได้ทำงานด้วยใจรักจริงๆ เลยไม่เคยท้อกับปัญหาที่เกิดขึ้นเลย”
กุลภดามาศกล่าวทิ้งท้ายกับคำแนะนำสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นทำงานเสริม
ที่มา : smethailandclub