X

จากร้านอาหารของ 3 พี่-น้อง สู่แบรนด์ระดับ ASEAN

จากขนมขบเคี้ยวของครอบครัว สู่แบรนด์หนังปลาที่โตใน 27 ประเทศทั่วโลก

เรียกได้ว่าเป็นขนมและของฝากยอด-ฮิ-ต-จากสิงคโปร์ IRVINS Salted Egg ขนมหนังปลาไข่เค็ม จุดเด่นทำให้คน-ค-ลั่-ง-ไ-ค-ล้-อยู่ที่ “ผงไข่เค็มสูตรพิเศษ” ดังจนต้องมาเปิดหน้าร้านในหลาย ๆ ประเทศ

นี่คือ-ธุ-ร-กิ-จ-ครอบครัวที่เริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ สามพี่น้องช่วยกันทำร้านป็อปอัพ-ข-า-ย-มีคนต่อแถวยาว-ข-า-ย-หมดภายในสองชั่วโมง นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้พวกเขามีเป้าหมายที่จะทำให้ขนมหนังปลาไข่เค็มได้รับความนิยมแบบกิมจิ นั่นคือเป้าหมายที่บอกว่าพวกเขาทำสำเร็จแล้ว

จุดเริ่มต้น แบรนด์ Irvins มาจากครอบครัวของ Irvin Gunawan ชาวสิงคโปร์เชื้อชาติอินโดนีเซีย เจ้าของร้าน Leban HK Café ใน Jalan Leban ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าเป็นย่านของร้านอาหารสไตล์บ้านๆ โดยเมนูเด็ดของร้านมีอยู่ 2 อย่าง นั่นก็คือ Grab Salted Egg (ปูผัดไข่เค็ม) และขนม

โดยใช้วัตถุดิบอย่างดีเรียกกันว่า “ชีสพาเมซานแห่งเอเชีย” ไข่เค็มเป็นเครื่องปรุงรสรสอูมามิที่มีรสเผ็ด ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในอาหารเอเชียตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 ในการทำซอสไข่เค็มที่มีชื่อเสียง (และเป็นกรรมสิทธิ์ของเรา) ผลที่ได้คือ รสอูมามิ-ร-ะ-เ-บิ-ด-และกรุบกรอบที่-ย-า-ก-จะต้านทาน

นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2559 จากการมีผู้ติดตามที่เคร่งศาสนาในสิงคโปร์กลายมาเป็นหนึ่งในแบรนด์ขนมขบเคี้ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเอเชีย และล่าสุดได้ขยายไปสู่ตลาดโลกกว่า 27 ประเทศ

เราทำ-ธุ-ร-กิ-จ-ด้านอาหารมาเป็นเวลานานตั้งแต่ปี 2008 เมื่อฉันเปิดร้านอาหารทะเล Irvins แห่งแรกในสิงคโปร์ ธุรกิจขนมไข่เค็ม Irvins ถือกำเนิดขึ้นโดยเกือบจะบังเอิญแต่ก็เพราะความจำเป็นเช่นกัน: ประมาณปี 2014 เราต้อง ย้ายร้านอาหารเพราะเจ้าของของเราเพิ่มค่าเช่าขึ้น 50%

“นอกจากต้องย้ายร้านแล้วทางร้านก็พยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ คือ นำเมนูไข่เค็มยอดนิยมของร้าน รวมทั้ง หนังปลาไข่เค็ม และ มันฝรั่งแผ่นทอดไข่เค็ม ตัดสินใจทำป๊อปอัปรอบ ๆ เมือง ซึ่งมีผู้บริโภคต่อแถวหนึ่งชั่วโมงเพื่อรอซื้อขนมทำให้เรา-ข-า-ย-หมดภายในสองชั่วโมง นั่นคือช่วงเวลาที่ว้าวของเรา เรารู้ว่าเราได้สร้างบางสิ่งที่เชื่อมโยงกับผู้บริโภคจริง ๆ และค่อนข้างมั่นใจ มีศักยภาพที่จะขยาย-ธุ-ร-กิ-จ-ให้ไกลเกินกว่าสิงคโปร์”

ย้อนกลับไปตั้งแต่จุดเริ่มต้น แบรนด์ Irvins มาจากครอบครัวของ Irvin Gunawan ชาวสิงคโปร์เชื้อชาติอินโดนีเซีย เจ้าของร้าน Leban HK Café ใน Jalan Leban พื้นที่ชานเมืองของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าเป็นย่านของร้านอาหารสไตล์บ้าน ๆ โดยเมนู-เ-ด็-ด-ของร้านมีอยู่ 2 อย่าง

นั่นก็คือ Grab Salted Egg(ปูผัดไข่เค็ม) และขนม ซึ่งเด็ดดวงขนาดที่ว่าร้านของ Irvin ซึ่งดูเหมือนร้านทั่วไปที่มีกระทะติดเขม่าแขวนไว้ข้างฝา พร้อมกับกล่องบรรจุเครื่องปรุงหลายอย่างในครัว และมีกลิ่นน้ำมันทอดที่คลุ้งไปทั่ว แต่ร้านนี้ก็-ข-า-ย-ดีจนต้องบอกกับ-ลู-ก-ค้าที่มาด้วยความหวังอยากได้ขนมติดมือกลับบ้านไปในช่วงตรุษจีนว่า “ยอดจองเต็มแล้วจนถึงเดือนมีนาคม”

ขนมที่ว่าก็คือ “มันฝรั่ง” และ “หนังปลา” คลุกไข่เค็ม นั่นเอง “ผมไม่ใช่คนชอบเล่น social media เท่าไหร่ ดังนั้น ผมไม่ได้ตั้งตัวเลยเมื่อ เกิด-เ-ห-ตุ-ก-า-ร-ณ์-แบบนี้ขึ้นหลังจากที่พวกเราได้คิดค้นขนมนี้ขึ้นมา พวกเราแค่ทำมันขึ้นมา

ไม่ได้คิดอะไรมากมาย ไม่แม้แต่จะทำการตลาดที่ต้องจ่าย-เ-งิ-น หากผมรู้ว่ามันจะประสบความสำเร็จแบบนี้ ผมคงทำมานานแล้ว” พี่คนกลางของครอบครัวซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO ให้สัมภาษณ์กับสื่อเอาไว้ในปี 2016

ในช่วงเวลานั้น ทุกเช้า เชฟของร้านต้องใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมงในครัวและมีผู้ช่วย 2-3 คน ทอดมันฝรั่งและหนังปลาก่อนที่จะเคลือบด้วยซอสไข่เค็มสีทอง Irvin เล่าเพิ่มว่า “พวกเราไม่สามารถทำมันได้เพียงพอ เพราะเป็นแค่ร้านอาหารบ้าน ๆ ทั่วไป

หากพวกเราสามารถทำให้เป็นกระบวนการผลิตแบบโรงงาน โดยมีสูตรคงที่และรสชาติที่คงที่ ก็จะทำให้พวกเราสามารถผลิตเพิ่มในจำนวนมากได้ แต่ตอนนี้พวกเราทำไม่ได้”

Irvin เกือบจะเฉยเมยต่อความสำเร็จใน-ธุ-ร-กิ-จ-ขนมรสไข่เค็มนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ แต่เมื่อน้องชายของเขา Ircahn เข้ามาช่วยงาน โดยมีหน้าที่สังเกตการปฏิบัติงาน การตลาด และการสื่อสาร พร้อมทั้งขยายไลน์การผลิตไปทำ “ครัวซองไข่เค็ม” ไอเดียเรื่องการขยาย-ธุ-ร-กิ-จ-ก็กลับมาอีกครั้ง

ครอบครัวของ Gunawan ย้ายถิ่นฐานมาในสิงคโปร์ตั้งแต่มีการประท้วงความไม่สงบเกี่ยวกับเชื้อชาติในอินโดนีเซียตอนปี 1998 พวกเขา 3 คนพี่-น้อง ใช้เวลาของชีวิตเกือบทั้งหมดที่สิงคโปร์ รวมทั้งเรียนมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ตัว Irvin เองนั่น

เรียนจบด้านการบริหาร-ธุ-ร-กิ-จ-จากออสเตรเลีย ส่วนพี่ชายคนโต Ivan ทำงานธนาคาร นั่นทำให้ ในตอนนี้ Irvin เป็น CEO ของ-บ-ริ-ษั-ท น้องชายของเขาดูแลเรื่องการผลิตในตำแหน่ง COO ส่วนพี่ชายคนโต เป็น CFO จัดการเรื่องการ-เ-งิ-น

2 ปีที่ผ่านมาของการ-ร-ะ-บ-า-ด-ใหญ่เป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับเราเพราะขนมของเราส่วนใหญ่ขายในห้างสรรพสินค้าและป๊อปอัป เมื่อ CD มา ห้างสรรพสินค้าต้องปิดอย่างกะทันหันเรา-สู-ญ-เ-สี-ย-ร-า-ย-ไ-ด้-ส่วนใหญ่ซึ่งบังคับให้เราต้องกระจายสินค้าของผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมถึงทางออนไลน์ วิธีนี้ช่วยให้เราขยายการจัดจำหน่ายไปยัง 12 ประเทศ

“ผมเริ่มทำ-ธุ-ร-กิ-จ-ตั้งแต่อายุ 15 ปี เริ่มทำขนมขายจากที่มีอุปกรณ์เพียงถังพลาสติกสีแดง จากป๊อปอัปขนาด 40 ตารางฟุตที่ผมและพี่ชายช่วยกันทำมาจากโต๊ะและชั้นวางของ Ikea แต่สินค้าขายหมดภายในสองชั่วโมง ความสำเร็จของร้านอาหารไม่ได้อยู่ที่ความโอ่อ่าหน้าร้านที่สวยงาม

แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่จำเป็นทั้งแนวคิด รสชาติ การเข้าถึงผู้คน ย้อนกลับไปก่อนหน้าผมก็เคย-ล้-ม-เ-ห-ล-ว-มาก่อน ส่วนใหญ่คือ-ธุ-ร-กิ-จ-ที่เราใช้เงินมากเกินไปเพื่อทำให้ร้านอาหารใหญ่เกินไป ฟุ่มเฟือยเกินไปโดยไม่จำเป็น”

สำหรับผม การเป็นผู้ประกอบการ หมายถึง การสร้างสิ่งต่าง ๆ และสามารถรับความ-เ-สี่-ย-ง-ที่เกิดจาก passion ได้ เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ มักจะคิดถึงแต่ผลกำไร โดยอาจลืมมองถึงว่าหากไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจแล้วจะรับมือกับมันอย่างไร

นอกเหนือจากสิงคโปร์แล้ว ตอนนี้ Irvins วางจำหน่ายหลายประเทศในเอเชีย เช่น ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และเร็ว ๆ นี้ก็กำลังจะเปิดที่ประเทศไทย ในเซ็นทรัลเวิลด์ หลังจากมี-ก-ร-ะ-แ-ส-ว่า-ลู-ก-ค้า 2 รายจากประเทศไทยและเวียดนามเจอจิ้งจกในซอง

โดย Irvin ออกโรงขอโทษและชดใช้ค่า-เ-สี-ย-ห–า-ย-ที่เกิดขึ้น พร้อมสัญญาว่าจะควบคุมคุณภาพการผลิต ต่อไปโดยมีคณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบ รวมทั้งใครที่ซื้อสินค้าในช่วงเวลาใกล้เคียงกันแล้วไม่สบายใจก็พร้อมจะคืน-เ-งิ-น-ให้

ที่มา : brandbuffet ,smethailandclub ,wongnai ,marketingoops

About ดาวพระศุกร์

View all posts by ดาวพระศุกร์ →