แบรนด์สปาไทย จะไปให้ถึงอินเตอร์ ความท้าทายครั้งใหม่ในชีวิตของศรีริต้า เจนเซ่น
ศรีริต้า เจนเซ่น บอกเล่าเหตุผลในการก่อตั้ง ออกานิก้า (Organika) แบรนด์สปาระดับพรีเมียม ที่มุ่งหวังให้เติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในระดับประเทศและระดับโลก เธอมีสินค้า 8 ไลน์ผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีมากกว่า 200 ไอเท็มที่ครอบคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้า
หากมอง ศรีริต้า เจนเซ่น ผ่านบทบาทนางเอก คงไม่มีใครปฏิเสธว่าเธอคือหนึ่งในนางเอกมากความสามารถคนหนึ่งของวงการบันเทิงไทย แต่หากมองเธอผ่านแว่นขยายอันใหม่ จะเห็นเธออีกมุมในฐานะผู้ก่อตั้งและผู้บริหารแบรนด์สปาไทยน้องใหม่ชื่อ ออกานิก้า (Organika) ความท้าทายครั้งใหม่นี้ ศรีริต้าลุยสร้างแบรนด์ด้วยความรักและความทุ่มเท
ริต้ามีความตั้งใจที่จะสร้างแบรนด์ที่สามารถเติบโตได้ในระยะยาวอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ก็เพื่อรองรับตลาดทั้งในระดับประเทศและระดับสากล ริต้าอยากให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของเรา ซึ่งเป็นทั้งอโรมาเธอราปีและสปาบำบัดสัญชาติไทยเป็นที่ยอมรับทั่วโลก
อยากทำให้คนไทยรู้สึกภูมิใจในแบรนด์นี้ เพราะเราทำมันด้วยใจรัก โดยส่วนตัวริต้าเป็นคนที่ชอบผลิตภัณฑ์กลุ่มสปาแคร์อยู่แล้ว ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของออกานิก้า ริต้าตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุด และอยากนำเสนอสู่ตลาดโลก
เราได้ทำการเปิดตัว Organika House ขึ้นมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ในโครงการพิมาน 49 (สุขุมวิท 49) ริต้าตั้งใจให้ที่นี่เป็นสปาระดับพรีเมียม และเป็นแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกของแบรนด์ด้วย การออกแบบจึงเป็นอะไรที่สำคัญ อย่างกระจกโดยรอบที่เห็นภายใน Organika House ได้แรงบันดาลใจมาจากเรือนกระจกเก็บพันธุ์ไม้นานาชนิด
เป็นการนำเอารูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาดัดแปลงและผสมผสานเข้ากับความเรียบหรู เราจึงออกแบบให้ชั้น 6 เป็น Roof Top ที่สามารถมองเห็นวิวโดยรอบผ่านกระจกใส ซึ่งชั้น 6 นี้จะเป็นร้านอาหาร Organika Cafe and Restaurant ด้วย
เราได้เชฟชาวสิงคโปร์ที่ผ่านการทำงานกับร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์มาเป็นที่ปรึกษาให้ด้วย ส่วนบริเวณสปาจะอยู่ที่ชั้น 5 เป็น Organika Secret Spa ที่เราใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ ช็อป และรูปแบบโดยรวมที่มีความร่วมสมัยและลงตัว
เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงเร็วมาก บวกกับเป็นยุคดิจิทัลที่ได้รับข้อมูลข่าวสารเยอะเกินไป หรือ Information Overload ทำให้เราดึงความสนใจลูกค้าได้ยากขึ้นกว่าเดิม ออกานิก้าก็ยิ่งต้องมุ่งเน้นไปที่การสื่อสารเพิ่มมากขึ้น
ด้วยเนื้อหาที่สั้นกระชับ เข้าใจง่ายที่สุด บวกกับต้องสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ชีวิตของเขาดีขึ้นจริงๆ อันนี้คือความท้าทายมากที่สุด และริต้าก็จะไม่หยุดมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการพิเศษที่ดีที่สุดออกมา
ใน 2 ปีแรก เรามุ่งหน้าทำการตลาดให้ตรงกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น เพื่อวัดการตอบสนองของลูกค้าจริงทั้งไทยและต่างชาติ ความมีชื่อเสียงของเราช่วยสร้าง Awareness หรือความตระหนักรู้เพียงระดับผิวเผินเท่านั้น เพราะลูกค้าของออกานิก้า
ไม่ได้ตัดสินใจซื้อเพราะเป็นแบรนด์ของศรีริต้า เจนเซ่น แต่เขาซื้อเพราะชื่นชอบในตัวผลิตภัณฑ์อย่างแท้จริง เขาชอบที่คุณภาพ เขาหลงใหลในกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ใช้แล้วดี จึงบอกต่อ มีลูกค้าหลายคนไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเป็นแบรนด์ของริต้า
าริต้าตั้งใจจะเน้นการสื่อสาร เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้มากขึ้น อยากกระจายการรับรู้ที่เน้นการสร้าง Awareness และ Differentiate ของสินค้าให้คนได้รับรู้ในวงกว้างกว่าเดิม และให้ความสนใจ รวมถึงอยากเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเรา เราจะมีหลากหลายกิจกรรมในปี 2018 รวมถึง CSR ปลูกป่า ปลูกจิตสำนึก ร่วมกับ 5 โรงเรียนที่ยากไร้ และที่สำคัญริต้าวางแผนจะเปิดร้านค้าเพิ่มอีกด้วย
ปัญหาและอุปสรรคเรามีทุกวัน แต่ก็มองว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในการทำธุรกิจ บางครั้งมันท้าทาย บางทีก็เจอเรื่องไร้สาระมาก เราในฐานะผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร เป็นผู้นำบริษัทเล็กๆ ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน เรายังไม่สามารถไปจ้างหัวกะทิมาอยู่กับเราได้ ริต้าจึงตั้งทีมชื่อว่า Organika Dream Team ขึ้นมา
เป็นบริษัทในอุดมคติที่เราอยากให้เป็น และทำให้ใกล้เคียงมากที่สุด มีแผนงาน กฎระเบียบชัดเจน มีระบบคอมพิวเตอร์รองรับทั้งหมด ทุกอย่างต้องแสดงออกมาจากเป็น data เป็นกราฟ เป็นตัวเลข เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
ปัจจุบันเรามีสินค้ากว่า 8 ไลน์ มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 200 ไอเท็ม ครอบคลุมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ครีมบำรุงผิวกายและมือ สบู่ นำ้มันสกัดบริสุทธิ์ ผลิตภัณฑ์ขัดและบำรุงริมฝีปาก ผลิตภัณฑ์ดูแลมือและเล็บ ผลิตภัณฑ์รูมสเปรย์ ซึ่งความโดดเด่นของแบรนด์เราทั้งหมดคือความหอม
เราจึงมีเทียนหอมที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% เรามี Diffuser ที่ให้กลิ่นธรรมชาติ ช่วยสร้างบรรยากาศให้บ้าน ที่ทำงาน หรือห้องนอนหอมฟินตลอดวัน
และที่ขาดไม่ได้คือ Pure Essential Oil เป็นน้ำมันหอมระเหยที่มาจากธรรมชาติ ช่วยบำบัด ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แม้จะสูดดมเป็นเวลานานก็ไม่ปวดหัว
ที่มา : thestandard
