X

‘ยูซุรุ’ สมบัติของชาติ เจ้าชายแห่งเซนได

เจ้าชายน้ำแข็ง ประกาศอำลาวงการแข่งขันฟิกเกอร์สเกตอย่างเป็นทางการ ในวัย 27 ปี

ซุรุ ฮานิว ถือเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลก เขาเกิดและเติบโตที่เมืองเซ็นได ประเทศญี่ปุ่น โดยชื่อของเขามีความหมายว่า ‘สายธนูที่ขึงตึง’ อันเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นใจ ความแข็งแรง ความซื่อตรงและยุติธรรม

และเริ่มเล่นสเกตน้ำแข็งตาม ซายะ พี่สาวของเขา เมื่ออายุได้เพียง 4 ขวบ โดยได้แรงบันดาลใจจากอดีตราชานักสเกตชาวรัสเซียผู้เป็นตำนานอย่าง อีฟกานี พลูเซนโก รวมถึงนักสเกตชาวอเมริกันอย่าง จอห์นนี เวียร์

ฮานิวเข้าศึกษาในระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนมัธยมปลายโทโฮะกุ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่นักสเกตชื่อดังนิยมเคยเรียนอยู่ เช่น ทาเคชิ ฮอนดะ และชิซึกะ อาราคาว่า แชมป์เหรียญทองโอลิมปิกหญิงคนแรกของญี่ปุ่น ก่อนที่จะเข้ารับการศึกษาทางไกลในมหาวิทยาลัยวาเซดะ สาขามนุษยสนเทศและประชานศาสตร์

มีข้อสังเกตหนึ่งที่น่าสนใจคือ ฮานิวมีโรคประจำตัวคือหอบหืด ซึ่งเป็นมาตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ซึ่งปัจจุบันจะเห็นได้จากหลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน เขามักจะหอบและมีอาการหายใจไม่ทัน

ฮานิวเข้าแข่งขันระดับผู้เริ่มเล่นในปี 2004 และได้รับเหรียญทอง ก่อนจะได้ นานามิ อาเบะ เข้ามาเป็นโค้ช ช่วงปี 2006-2007 เขาลงแข่งขันหลายรายการ และคว้าได้ทั้งเหรียญทองและเหรียญทองแดง

กระทั่งได้ขึ้นมาอยู่ในระดับเยาวชน และลงแข่งขันในรายการ Junior Grand Prix เป็นรายการแรก ที่ประเทศอิตาลี โดยมีคะแนนรวมอยู่ในอันดับที่ 5

หลังจากนั้นฮานิวเข้าแข่งรายการ Japan Junior Championship 2008-09 ทำคะแนนในโปรแกรมสั้นได้ 57.25 คะแนนเป็นอันดับที่ 4 และฟรีสเกตเป็นอันดับที่ 1 ด้วยคะแนน 124.92 ผลคะแนนรวมเป็นที่ 1 ด้วยคะแนน 182.17 จึงได้รับเหรียญทองในรายการนี้

และถือว่าเป็นนักกีฬาชายที่อายุน้อยที่สุดในวัยเพียง 13 ปีเท่านั้น

ในปี 2009-2010 ฮานิวชนะการแข่ง Japan Junior Championship และได้รับการคัดเลือกเข้าแข่งขันในรายการ Japan Championship ระดับผู้ใหญ่ ก่อนจะชนะเหรียญทองในการแข่งขันที่ประเทศโครเอเชียและโปแลนด์

และถูกเลือกให้เข้าแข่งรายการ World Junior Championship อีกครั้งและได้รับเหรียญทองด้วยการทำคะแนนส่วนตัวดีที่สุด จึงกลายเป็นนักสเกตชาวญี่ปุ่นที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับเหรียญทองในรายการแข่งขันใหญ่ระดับโลกนี้

หลังจากคว้ารางวัลมาหลายรายการ เมษายนปี 2012 ฮานิวตัดสินใจย้ายไปอยู่กับโค้ช ไบรอัน ออร์เซอร์ ที่โทรอนโต ประเทศแคนาดา และได้เพิ่มเวลาฝึกซ้อมจาก 1-2 ชั่วโมงต่อวันเป็น 3-4 ชั่วโมงต่อวัน ก่อนที่ในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน

ฮานิวจะชนะเหรียญทองในการแข่งขันระดับชาติได้เป็นครั้งแรก ถัดมาในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2013 ก็คว้าเหรียญเงินในการแข่งชิงแชมป์สี่ทวีป และจบที่อันดับ 4 ในการแข่งชิงแชมป์โลกปี 2013

ที่สำคัญ เขาเป็นแชมป์โอลิมปิกฤดูหนาวที่อายุน้อยที่สุด ด้วยวัยเพียง 19 ปี เท่านั้น

และในวันที่19 กรกฎาคม ฮานิว ยูซุรุ เจ้าชายสเกตน้ำแข็งวัย 27 ปี ได้ตัดสินใจประกาศอำลากีฬาฟิกเกอร์สเกต หรือสเกตลีลา หลังลงแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวทั้งหมด 3 สมัย คว้าไป 2 เหรียญทอง และสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการพยายามทำท่า Quadruple Axel

โดยเจ้าของ 2 เหรียญทองฟิกเกอร์สเกตชายได้ประกาศผ่านงานแถลงข่าวในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ครั้งแรกหลังจบการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งที่ผ่านมา

“ผมตัดสินใจเข้าสู่วงการสเกตน้ำแข็งอาชีพ” ฮานิวกล่าว “ผมไม่เสียใจ และอยากที่จะทำงานต่อไป

“แต่ผมไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ในกรอบของการแข่งขันอีกต่อไป ผมคิดว่าผมสามารถนำพาฟิกเกอร์สเกตไปสู่หนทางที่แตกต่างไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้

“หลังจากโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่ง ตอนที่ผมกลับถึงบ้าน ผมไม่สามารถสเกตได้ เพราะความเจ็บปวดที่ข้อเท้า (ฮานิวได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าขวาก่อนการแข่งขันที่ปักกิ่ง) ผมคิดถึงอะไรหลายๆ อย่าง แต่ผมรู้สึกว่าผมไม่ควรที่จะอยู่ในจุดนี้ตลอดไป”

สำหรับ ฮานิว ยูซุรุ นับเป็นหนึ่งในนักกีฬาสเกตลีลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ด้วยการคว้าแชมป์เกือบจะทุกรายการที่เขาลงแข่งขันได้ คว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัย แชมป์โลก 2 สมัย และแชมป์กรังด์ปรีซ์ 4 สมัย โดยเขาได้ตัดสินใจยุติเส้นทางอาชีพ หลังจบอันดับที่ 4 ที่กรุงปักกิ่ง ที่เขาพยายามจะทำท่า Quadruple Axel

“ผมทำ Axel ได้ใกล้เคียงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมทำได้ในตอนนี้ ผมได้พยายามทำ และนั่นจะเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกดีตลอดไป”

ไม่แปลกที่แทบทุกการแข่งขันจะเห็นแฟนๆ ส่งเสียงเชียร์เขาหลังจบการแข่งขัน พร้อมกับโยน ‘ตุ๊กตาหมีพูห์’ อันเป็นคาแรกเตอร์ที่ฮานิวชื่นชอบเป็นพิเศษ ลงมาบนลานสเกตน้ำแข็งนับสิบนับร้อยตัว

จนมีชื่อเรียกว่า ‘ฝนหมีพูห์’ นั่นแสดงถึงความนิยมในตัวเขา ผู้ซึ่งเป็นดาวเด่นได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะเป็นการอำลาแฟนก็ยังพร้อมใจกันสร้างปรากฎการณ์นี้ขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อเป็นการจดจำให้แก่คนที่พวกเขารัก

ที่มา : themomentum ,thestandard

About ดาวพระศุกร์

View all posts by ดาวพระศุกร์ →