“Li Yong Musk” อีลอน เซินเจิ้น??
หลายคนคงรู้จัก อีลอน รีฟ มัสก์ (อังกฤษ: Elon Reeve Musk) เป็นนักธุรกิจและนักลงทุนชาวอเมริกัน-แอฟริกาใต้ ทั้งยังเป็นวิศวกรและนักประดิษฐ์ เป็นผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของบริษัทสเปซเอ็กซ์ และยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง, ผู้บริหารและสถาปนิกผลิตภัณฑ์ของเทสลามอเตอร์ส
และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและประธานบริษัทของเพย์แพล ตลอดจนบริษัทอื่นอีกมากมาย นอกจากนี้เขายังเป็นผู้จุดประกายความคิด
ระบบขนส่งความเร็วสูงที่เรียกว่าไฮเปอร์ลูป และเครื่องบินใบพัดขับเคลื่อนไฟฟ้าเหนือเสียงแบบขึ้นลงทางดิ่ง
อีลอน มัสก์ อภิมหาเศรษฐีของโลก ซีอีโอของ Tesla รวมถึงบริษัทยานอวกาศ SpaceX ชายที่มีความมั่งคั่งมากที่สุดในโลก
เราจะพาไปทำความรู้จักกับประวัติความเป็นมาของอีลอน มัสก์ ให้รู้จักกันมากขึ้นอีกสักนิด แม้ปัจจุบันอีลอน มัสก์
จะอาศัยอยู่ที่คาเมรอนเคาตี้ (Cameron County) รัฐเท็กซัส (Texas) ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ความจริงแล้วอีลอน มัสก์
ไม่ใช่ชาวอเมริกัน แต่เป็นชาวแอฟริกาใต้ ที่ปัจจุบันถือสัญชาติอยู่ทั้งหมด 3 สัญชาติด้วยกัน ได้แก่ แอฟริกาใต้ แคนาดา และอเมริกา
เนื่องจากอีลอน มัสก์ เกิดที่เมือง พริทอเรีย (Pretoria) , ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 1971 (ปีนี้อายุครบ 51 ปี)
ณ วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2564 เขาได้รับจัดอันดับให้เป็นบุคคลที่ร วยที่สุดในโลกด้วยทรัพย์สินทั้งสิ้น 185 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
แซงหน้าเจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้ง บริษัทค้าปลีกออนไลน์แอมะซอน ล่าสุด ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปี 2021 ที่ผ่านมา ได้มีหนุ่มจีน
รายหนึ่งกลายเป็นไวรัลขึ้นมาบนโลกอินเตอร์เน็ตจากการที่เขาหน้าเหมือน Elon Musk มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกที่เพิ่งซื้อ
Twitter มาเป็นเจ้าของได้สำเร็จ ซึ่งในตอนนั้นแคทดั๊มบ์เราก็ได้หยิบมานำเสนอเป็นคอนเทนต์ ทำเอาลูกเพจหลายคนออกมาตั้งชื่อ
ให้เขาหลายชื่อ เช่น อู่หลง มัสก์, อี้หลง หม่า, อี ลอง มัก และอีกมากมาย ทีนี้หลังจากที่โด่งดังจากกระแ สไวรัล ทำให้หนุ่มหน้า
เหมือนคนนี้ได้ตัดสินใจเปิดบัญชี TikTok ขึ้นมา ใช้ทำคลิปออกมาสื่อสารกับชาวเน็ตทั่วโลก โดยเจ้าตัวได้ตั้งชื่อตัวเองว่า Yilong Ma
หรือ ‘ยีล็องหม่า’ พร้อมระบุว่า Elon Musk เป็นพี่ชายของเขาเอง แถมในแต่ละคลิปเจ้าตัวก็จะถ่ายกับรถ Tesla ด้วย สมบทบาทไปอี๊กกก
(หรือจะเอาแบบไทยๆ หน่อย ก็คงจะเรียกกันว่า “อีลอน เซินเจิ้น”) โดยคลิปของชายคนนี้ได้เกิดเป็นกระแสขึ้นมาบนเว็บ Douyin (ชื่อที่ TikTok ใช้ในจีน)
ก่อนที่จะถูกเอามาโพสต์ต่อลงในกลุ่มเฟซบุ๊กของชาวมาเลเซีย ทำให้มีชาวเน็ตมาคอมเมนต์ชอบใจกันมากมายกลายเป็นกระแสไวรัลขึ้นมา
จนแม้แต่เว็บไซต์ต่างประเทศก็หยิบไปนำเสนอ โห หน้าเหมือนจริงๆ แอดคิดว่าคนเดียวกันๆ ซะอีก
คลิป
https://www.tiktok.com/@mayilong0
