ก่อนจะมาเป็น “เซียนหรั่ง วิถีชีวิตแบบมะลายอยาก” เคยตกต่ำมาก่อน
“เซียนหรั่ง วิถีชีวิตแบบมะลายอยาก” รายการที่นำเสนอวิถีชีวิตคนอีสานได้อย่างกินใ-จใครหลายๆคน รวมถึงตัวแอดเองด้วย คุณคงอยากรู้ว่า หน้าตาดูฝรั่งแต่พูดอีสานได้ชัดซะเหลือเกิน วันนี้แอดเลยรวบรวม ข้อมูลของ “เซียนหรั่ง” หรือ “โน่ ภูวเนตร”
มาให้ได้รู้จักกันมากขึ้น หากพร้อมแล้วมารู้จักเขากันเลย “เซียนหรั่ง” หรือ “โน่ ภูวเนตร” เกิดวันที่ 30 ธันวาคม 3539 ที่ประเทศไทย โดยพ่อเป็นคนเบลเยียม แม่เป็นคนไทย
ในวัยเด็กเขาได้ไปเรียนที่สิงคโปร์ 3 ปีกับคุณพ่อ และก็ย้ายกลับมาอยู่กับแม่ที่ประเทศไทย
นับจากนั้นเขาได้เติบโตที่จังหวัด ยโสธร กับคุณยายอรุณ
เขาได้เริ่มเข้าวงการ ในบท บักเฮิร์บ ในภาพยนตร์เรื่อง ไทบ้าน เดอะซีรี่ส์
ฝรั่งลู-กครึ่งที่มาได้เมียเป็นแม่ค้าปากจั-ดในอีสาน ซึ่งสไตล์ของหนุ่มโน่ก็เป็นแนว เท่ๆ เซอร์ๆ คูลๆ ไม่แพ้ใคร แถมความหล่อแบบลู-กครึ่งยิ่งทำให้สๅวๆ หวั่นไหวได้ง่ายๆ ไปอีก เรียกได้ว่าจัดจ้านในย่านนี้จริงๆ
เขาได้เป็นนักแสดงสมทบทางช่อง 7 เช่นเรื่อง เชิงชายชาญ
และได้เรียนรู้การถ่ายทำจากการอยู่เบื้องหลัง โดยการเป็นทีมงานด้วย หลังจากนั้นเขาก็ได้มีโอกาส เป็นผู้กับกำ ภาพยนตร์เรื่อง “รั-กหนูมั้ย”
โดยเขาได้เริ่มเขียนบทเองและมีการยื่นบทให้ผู้ใหญ่ได้อ่าน จนเขาได้รับโอกาสในการสร้ๅงความฝันเรื่องนี้ให้เป็นจริง
เขาได้กล่าวว่า หนังเรื่องนี้ คือบททดสอบนึงของชีวิต ที่ท้าทายมาก มีปั-ญ-ห-าระหว่างถ่ายจนได้ยกกองที่ถ่ายมาแล้ว เกือบ 6 คิว และเริ่มถ่ายใหม่ พอถ่ายเสร็จหนังไม่สามารถฉายในโรงภาพยนตร์ได้เนื่องจากสถๅนกๅรณ์ Covid-19
ในรอบแรก ผ่านไปร่วม 1 ปี ถึงวันที่หนังได้ฉาย แม้ว่าหนังจะออกมาถูกใ-จคนดูหรือไม่ก็ตาม เขาได้ทำเต็มที่ ใส่ใ-จทุกรายละเอียด เขาถือว่าเขาได้ส่งหนังถึงจุดหมายแล้ว
มาถึงจุดเริ่มต้นรายการ เซียนหรั่ง วิถีชีวิตแบบมะลายยายอยาก เซียนหรั่งได้ให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ว่า
รายการเซียนหรั่ง เกิดจากการที่ต้องเจอจุดต่ำสุดของชีวิต ช่วงที่มีการระบๅดของ Covid-19 ตั้งแต่รอบแรกงานก็หๅยหมดเลย ไม่ได้ทำอะไร อยู่บ้านเฉยๆ ใช้เ-งิ-นเก็บไปเรื่อยๆก็อร่อยหรอ จนเ-งิ-นเก็บหมด ตอนนั้นสิ่งเดียวที่คิดถึงคือ บ้าน จนเกิดคำถามในหัวขึ้นว่า
กลับไปอยู่บ้านไปใช้ชีวิตดีไหม แต่ตอนนั้นมันกลับไม่ได้ ติดทั้งเรื่อง Covid-19 และก็เรื่องเ-งิ-นด้วย เพราะกลับไปไม่ได้ทำงาน แล้วจะเอาเ-งิ-นที่ไหนมาดู-แ-ลครอบครัว
จากนั้นเขาได้เดินทางไปศรีสะเกษเพื่อเอาคอนเทนต์ที่คิดกันกับสิงโต ไปปรึกษาพี่จ๊อบ (เซียนหยอง) โดยที่ยังไม่มีชื่อรายการ แต่มีคอนเทนต์ที่น่าสนใ-จ
ไปแบบไม่มีอะไรเลย เ-งิ-นในบัญชีแทบจะไม่หลือ เอาตัวคอนเทนท์ไปคุยกับพี่จ๊อบ เขาก็เอาด้วย และก็ได้เจอกับเซียนโอ๋ อีกคน ทำให้ทีมตอนนั้นมีกันสี่คน
ซึ่งพวกเราก็อาศัยนอนอยู่หลังบ้านพี่จ๊อบนั่นแหละ เพราะไม่มีเ-งิ-นจะไปเช่าที่พักที่ไหนเลย ซึ่งหลังบ้านพี่จ๊อบมีซุ้มไม้ไผ่ ที่ทำไว้เป็นพร็อพสำหรับถ่ายหนัง
และได้กล่าวปิดท้ายว่า “ก็ยังมีเป้าหมายในชีวิตอีกหลายอย่างที่วางไว้ว่าจะต้องทำให้ได้ เรื่องของการทำอาหารก็เป็นอีกเรื่องที่อยู่ในเป้าหมายชีวิต ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเปิดร้านอาหารอีสาน
เพื่อสร้ๅงอาหารอีสานเป็นที่รู้จักมากขึ้น เรื่องของการทำอาหารเป็นสิ่งที่ชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก แต่คิดว่าตอนนี้อยากทำรายการเกี่ยวกับอาหารก่อน คิดไว้แต่ยังไม่ได้ทำ
ถ้ามีโอกาสก็จะทำรายการอาหารอีสานเพื่อนำเสนอให้ทุกคนได้เห็น อยากทำรายการที่นำวัตถุดิบอีสานทำอาหาร 5 ดาว”
ขอบคุณ IG: no_phuvanet , Thibaan Channel