“น้องกัสจัง” จากเด็กยืนแจกใบปลิว สู่ยูทูปเบอร์ดัง เป็นที่รักที่เอ็นดูของทุกคน
กัสจัง จิรันธนิน เธียรพัฒนพล เป็น YouTuber วัย 18 ปี เจ้าของเพจ “Gutjung’s Life – โลกของกัสจัง” และเป็นทั้งนักธุรกิจ นักเรียนไฮสคูลในสหรัฐอเมริกา และเป็นช่างภาพด้วย โลกของกัสจังบนพื้นที่ออนไลน์ เริ่มต้นเมื่อเขาอายุประมาณ 10 – 11 ปี
จากการดูช่องรีวิวของเล่น EvanTubeHD ใน YouTube และรู้สึกอยากได้ของเล่นจำนวนมหาศาลอย่างนักรีวิวของเล่น จึงไปอ้อนวอนขอให้แม่ซื้อของเล่นให้ และรู้สึกอยากได้ของเล่นจำนวนมหาศาลอย่างนักรีวิวของเล่น จึงไปอ้อนวอนขอให้แม่ซื้อของเล่นให้
แต่ด้วยความที่เป็นคนเบื่อง่ายและมีไอเดียบรรเจิดตลอดเวลา ไม่นานนัก กัสจังก็ “มูฟออน” จากเรื่องของเล่น ไปสู่เรื่องอื่นๆ ทั้งชีวิตประจำวัน การสอนภาษาอังกฤษ เทคโนโลยี และการเดินทางท่องเที่ยว และจนกระทั่งทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีใครส่งของเล่นมาให้เขารีวิวเลย
ในขณะที่คลิปรีวิวร้านสะดวกซื้อ Amazon Go ในซีแอตเติล สหรัฐอเมริกา ก็เป็นคลิปไวรัลอีกคลิปหนึ่งของเขา
ด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับเทคโนโลยีในการช้อปปิ้งที่สะดวกสบาย บวกกับความตั้งใจของกัสจัง ที่บรรจง “ปั้น” ทั้งถ่ายทำและตัดต่ออย่างมืออาชีพ
ด้วยความที่รักการดูคลิปใน YouTube เป็นชีวิตจิตใจ เมื่อกัสจังอายุประมาณ 12 – 13 ปี เขาได้ศึกษาวิธีการทำของเล่นโฮโลแกรมจากคลิป DIY และทดลองทำตาม ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
“ผมก็ไปเจอ YouTube วิดีโอหนึ่งมา เป็นวิธีการทำโฮโลแกรม ซึ่งไม่ต้องใช้วงจรไฟฟ้าอะไรเลย ใช้แค่พลาสติก ผมก็ทำมา แล้วก็เอาไปให้คุณพ่อ
คุณพ่อก็บอกว่า “กัสจัง เอาเข้า 7-11 ไหม พ่อว่าจำหน่ายได้” ผมก็เลยเอาเข้าไป ก็เข้าไปประมาณหลายพันสาขา แล้วก็จำหน่ายหมดเลย อันนั้นก็เป็นการลงทุนทำธุรกิจอันแรกของผมเลย”
หลังจากประสบความสำเร็จจากการประดิษฐ์ของเล่นเพื่อจำหน่ายล่าสุด กัสจังร่วมมือกับคุณแม่ ผลิตน้ำผักเพื่อสุขภาพ และจำหน่ายทางเพจของตัวเองด้วย
โดยคุณพ่อเล่าว่า “นี่คือภาพครอบครัวเรา เมื่อ 6 ปีที่แล้ว facebook นำกลับเอามาให้ดูอีกครั้ง เห็นทีไรน้ำตาซึมเพราะสงสารลูก.. เราอยู่กันแค่ 3 คน พ่อ แม่ ลูก ครับ
ตอนนั้นลูกยังเล็กมาก ผมกับภรรยาออกมาจำหน่าย เลยต้องเอาลูกออกมาด้วย เพราะไม่มีคนช่วยดูลูกที่บ้าน ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ธุรกิจหลักของครอบครัวเรากำลังเกิดวิกฤติครับ
ต้องสู้ทุกวิถีทาง ตอนแรกผม และภรรยาช่วยกันยืนแจกใบปลิวอยู่ 2 คน แล้วเอาหนังสือให้ลูกนั่งอ่าน สักพักลูกคว้าใบปลิวออกมาช่วยแจกด้วยบอกให้กลับไปอ่านหนังสือก็ไม่ยอม เค้าบอกว่าอยากช่วยคุณพ่อคุณแม่
ตอนนั้นเราเพิ่งเริ่มธุรกิจนี้ใหม่ ๆ ยังไม่มีโรงงาน ไม่มีเงินทำโฆษณา และยังไม่มีลูกค้าเลยสักคนครับ สิ่งเดียวที่มีคือความเชื่อว่าสินค้าของเรามันดีมาก เพราะผมใช้เองแล้วได้ผล
จำได้ว่าวันนั้นพวกเรายืนแจกใบปลิวจำหน่ายของกันตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 5 ทุ่มจำหน่ายได้ 1 กระปุกถ้วน คนซื้อคือแม่ค้าร้านข้าง ๆ คาดว่าคงจะช่วยซื้อเพราะสงสาร จนกระทั่งเปลี่ยนไปจนถึงทุกวันนี้ ครอบครัวของเรามาไกลมาก