X

โอมากาเสะอาหารพื้นเมืองของคนเมืองเชียงใหม่

ปิ๊งไอเดียเสิร์ฟลาบแบบซูชิสไตล์โอมากาเสะ กระแสโอมากาเสะอาหารพื้นเมืองในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 กระแสโอมากาเสะในปัจจุบันถือว่ากำลังได้รับความนิยม ทำให้ร้านจำหน่ายอาหารพื้นเมืองในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เกิดแนวคิดปรับรูปแบบการเสิร์ฟเมนูลาบและอาหารพื้นเมืองในรูปแบบเดิมๆ

มาเสิร์ฟในรูปแบบโอมากาเสะ รูปแบบซูชิญี่ปุ่น โดยให้เชฟของร้านออกปั้นข้าวเหนียวพร้อมนำเมนูลาบที่อยู่ในเซตที่จัดเตรียมไว้มาออนท็อปลงบนข้าว ส่งให้ถึงมือลูกค้าแบบคำต่อคำนางสาวลักขณา

อภิวงษ์ หรือ จ๊ะจ๋า อายุ 27 ปี เจ้าของร้านลาบช้างสาร เปิดเผยว่า ต้องการสร้างประสบการณ์ใหม่ในการรับประทานอาหารพื้นเมือง และสร้างจุดขายให้กับร้าน ที่กำลังพลิกฟื้นหลังวิกฤตการแพร่CV-19

โดยปกติทางร้านจะทำคอนเทนต์ประจำเดือนเพื่อโปรโมทเมนูอาหารอยู่แล้ว โดยเดือนนี้ได้เกิดแนวคิด กินลาบยังไงให้โลกจำ ซึ่งการรับประทานลาบ โดยทั่วไปจะปั้นข้าวเหนียวแล้วจิ้มลาบ หรือ

คนเหนือจะเรียกว่า กุ้ยลาบ แต่ตอนนี้กระแสโอมากาเสะกำลังมาแรง ส่วนอาหารเหนือก็อร่อยไม่แพ้อาหารญี่ปุ่น จึงนำอาหารทั้งสองสัญชาติมาผสมผสานกัน กลายเป็นโอมากาเสะสไตล์พื้นเมือง

หลังทดลองทำเมนูนี้ออกมา ลูกค้าก็ให้การตอบรับค่อนข้างดี เพราะได้ประสบการณ์แปลกใหม่ในการรับประทานอาหารเมือง เซตโอมากาเสะขายในราคา 599 บาท มีเมนูทั้งหมด 6 อย่าง คือ

ลาบหมูดิบ ลาบช้างสาร ลาบเนื้อดิบ ลาบไข่มดแดง ต้มเห็ดถอบน้ำพริกข่า น้ำพริกหนุ่มและแคบหมู โดยจะมีเชฟออกมาปั้นซูชิพื้นเมืองทั้งหมด 6 คำ ให้ลูกค้าได้ทานในสไตล์โอมากาเสะ

หลังจากนั้นลูกค้าจะเลือกรับประทานอาหารเหนือในแบบฉบับดั้งเดิม หรือ สไตล์ซูชิ ก็สามารถปั้นได้เองตามความชอบนอกจากเซตโอมากาเสะ ที่ร้านยังมีอาหารพื้นเมืองแนะนำ เช่น แกงฮังเล

ไส้อั่ว แอ๊บอ่องออ และลาบช้างสาร ซึ่งเป็นเมนูซิกเนเจอร์ขึ้นชื่อ ที่ผสมผสานวิธีการทำระหว่างลาบพื้นเมือง และลาบอีสาน จึงมีรสชาติที่เข้มข้นมีความหอมเครื่องเทศแบบลาบพื้นเมืองทางเหนือ

แต่มีรสเปรี้ยวแทรกอยู่แบบลาบอีสาน หรือเมนูยอดฮิตตามฤดูกาล เช่น ลาบไข่มดแดง และต้มเห็ดถอบ ซึ่งปกติจะหารับประทานได้เฉพาะช่วงเวลาตามฤดูกาลเท่านั้น แต่ที่ร้านมีให้ลูกค้าสั่ง

ได้ตลอดทั้งปี เพราะเราสต็อกวัตถุดิบไว้ในห้องเย็น จึงพร้อมนำมาปรุงเป็นเมนูเด็ดให้ลูกค้าได้ลิ้มลองตลอดเวลานางสาวลักขณา กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เคยทำธุรกิจร้านอาหารสไตล์ผับ

มาประมาณ 10 ปีแล้ว โดยเปิดร้านอยู่ในโครงการสันติธรรมพลาซ่าใช้ชื่อว่า ดอนมดแดง และ ยักษ์ษา แต่ต้องปิดตัวลง แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบอาหารพื้นเมือง จึงตัดสินใจเปิดร้านอีกครั้ง

ในสถานที่เดิม และครั้งนี้ได้ไปขอให้ครูบาอาจารย์ที่นับถือช่วยตั้งชื่อร้านให้ ซึ่งความหมายของ“ช้างสาร” ก็คือ ผู้มีอำนาจ มีพลัง โดยร้านลาบช้างสารเปิดมาได้ราว 3 ปีแล้ว แม้ช่วงที่CV-19

ระบาดจะประสบปัญหาแต่ก็ผ่านพ้นมาได้สำหรับร้านช้างสาร อยู่ในโครงการสันติธรรมพลาซ่า ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 4 โมงเย็น จนถึง 8

โมงเช้า สาเหตุที่เลือกเปิดเวลานี้ เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มครอบครัว และคนที่ชอบหาลาบและอาหารพื้นเมืองกินรอบดึก ในอนาคตวางแผนว่าจะเปิดร้านลาบแห่งนี้ตลอด 24 ชั่วโมง ลูกค้า

ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารได้ที่เพจเฟซบุ๊ก “ลาบช้างสาร” หรือจองโต๊ะได้ที่เบอร์โทร 053- 216183
ข่าว/ภาพ : นิศานาถ กังวาลวงศ์ สำนักข่าวเนชั่นภาคเหนือ