“ถูกพ่อแม่ตัดลูกกับเขาเลย”และเพื่อนๆที่เขาเคยมีอยู่ก็เริ่มหายไปทีละคนๆเขาเสียใจมาก ต้องอดทน อดกลั้นอย่างมากแต่เขาคิดต่างว่าไม่เป็นไร
“วงษ์พาณิชย์” โรงงานแยกขยะรีไซเคิลปัจจุบันมีทั้งหมด 1,300 สาขาทั่วโลก ก่อตั้งโดย ดร.สมไทย วงษ์เจริญดร.สมไทย วงษ์เจริญ เป็นคนพิจิตรเป็นเด็กคนหนึ่งที่เริ่มหาเงินเอง ตั้งแต่อายุ 15 ปีหาของเล็กๆขายไปเรื่อย
หาเช้ากินค่ำและก็หมดไปวันๆเขาเคยขอทุนจากคุณพ่อ 1,000 บาทเพื่อมาขายกระเทียมเพราะคิดแล้วได้กำไร 200 %เวลาผ่านไป 2 สัปดาห์ ก็ขายหมด
แต่ก็ไม่เหลือกำไรหลายๆคนคงรู้ว่ากระเทียมเมื่อเวลาผ่านไปน้ำหนักของมันจะลดลง ทำให้ขายไปก็เหนื่อยฟรีจนวันหนึ่ง เขาได้มาไหว้พระพุทธชินราช
ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารแล้วขอพรต่อหลวงพ่อว่า“ขอให้พบเส้นทางทำมาหากิน ให้สำเร็จด้วยเถิด”เมื่อเขาเดินออกมาจากวัด ก็เจอป้าแก่ๆคนหนึ่ง
ผมกระเซิงเสื้อผ้าเก่าๆ ตัวเหม็นๆ พร้อมซาเล้งที่มีขยะเต็มคันเขาถามป้าว่า “ป้าไปเอาขยะมาทำไม ป้าปกติหรือเปล่า?”ป้าก็ตอบทันทีว่า “มึงนั้นแหละ
มึงรู้ไหมว่าของพวกนี้มีค่า มึงนั้นแหละไม่ปกติ”เขาก็เริ่มคิดว่า ขยะพวกนี้มีค่าด้วยหรอ…จากนั้นเขาก็ก้มลงกราบป้าติดดินเลยเพราะนี่คือครูคนที่ 1
และเป็นคำสอนแรกของ นายสมไทย วงษ์เจริญจากนั้นเขาก็ตัดสินใจ เช่าห้องแถววัดเดือนละ 400 บาทมาเก็บขยะที่วัดทุกวัน ครึ่งวันที่เก็บขยะก็ได้ 400 บ
เท่ากับค่าเช่าห้องทั้งเดือนแล้วแล้วทองในสมัยนั้นราคาบาทละ 400 บาท !เขาเลยบอกเลยว่า “ขยะ คือ ทองคำ”ทุกอย่างเหมือนกำลังไปได้ดี
แต่เขาก็ได้เจออุปสรรคที่บ้านไม่เห็นด้วย เพราะพี่น้องคนอื่นๆเรียนจบสูงมาได้งานการที่ดีทำ แต่เขามาขายขยะ ถูกมองว่าบ้าและถึงขั้นหนักขนาดที่
“ถูกพ่อแม่ตัดลูกกับเขาเลย”และเพื่อนๆที่เขาเคยมีอยู่ก็เริ่มหายไปทีละคนๆเขาเสียใจมาก ต้องอดทน อดกลั้นอย่างมากแต่เขาคิดต่างว่าไม่เป็นไร
เขามองว่าขายขยะดีกว่าการจบปริญญาเอกหลายๆใบที่คนอื่นได้กันมาเขาเชื่อในความคิดเขาอย่างหนักแน่นและลงมือทำต่อเนื่อง เพื่อพิสูจน์
ให้ครอบครัวเห็นว่า“ขยะไม่ใช่สิ่งที่สังคมรังเกียจอีกต่อไป”เขาใช้เวลาถึง 3 ปี เพื่อพิสูจน์ให้ครอบครัวและเพื่อนเข้าใจและเกิด วงษ์พาณิชย์
ที่ใหญ่โตไปทั่วโลกได้อย่างทุกวันนี้มีคนเคยถามเขาว่า คิดว่าธุระกิจขยะมีวันเจ๊งไหม ?เขาบอกว่า“ตราบใดที่ยังมีผู้บริโภค ผู้ผลิต วงษ์พาณิชย์
ก็ยังคงอยู่ได้”และเขาบอกต่อถึงมุมมองของเขาอีกว่า“บนโลกนี้ไม่มีขยะหรอก มันเป็นเพียงทรัพยากรที่วางไว้ผิดที่แค่นั้นเอง”นี่คือความคิดของ
“ดร.สมไทย วงษ์เจริญ”ขอบคุณที่อ่านจนจบ