Starbuck บ้านหลังที่สามของคนทั่วโลก เผยเส้นทางที่ไม่ธรรมดา กว่าจะเป็นสาร์บัค
วันนี้จะพาไปพบกับร้านกาแฟดัง ที่ใครหลายๆคนก็ต้องรู็จักนั่นก็คือ Starbucks นั้นเอง และใครจะเชื่อว่าชายผู้ที่ไม่มีแม้กระทั่ง บั ญ ชี เ งิ น ฝากอย่าง ‘Howard Schultz’ จะเป็นผู้พลิกโฉมวงการกาแฟของโลกด้วยแบรนด์ ‘Starbucks’ ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
และครองใจผู้คนมายาวนาน ‘Howard Schultz’ เจ้าของ Starbucks เกิดในย่านบรูคลิน, นิวยอร์ก เขาเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน รายได้ทั้งหมดมีพอแค่ซื้อข้าวกินไปวันๆเท่านั้น
ทำให้เขา ต้องออกมาทำงานมากมาย ตั้งแต่อายุ 12 ปี ทั้งขายหนังสือพิมพ์ เด็กเสิร์ฟในร้านกาแฟ และทำงานในร้านขายขนสัตว์ ซึ่งทำให้เขาเป็นคนขยัน สู้งานตั้งแต่เด็กๆ
และหลังจากที่ฮาวเวิร์ดได้ลองชิมกาแฟที่ร้าน Starbucks เขาก็ตกหลุมรักในตัวธุรกิจนี้ในทันทีทันใด และความคิดหนึ่งก็พุ่งขึ้นมาในหัวของเขาว่า ไม่ว่าจะยังไงฉันก็จะต้องเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของธุรกิจนี้ให้จงได้
ซึ่งคำแนะนำแรกจากฮาวเวิร์ดที่แนะนำต่อ Jerry Baldwin ว่า ร้านกาแฟของเขานั้น มีศักยภาพมากพอที่จะเปิดสาขาเพิ่ม และในวันรุ่งขึ้นฮาวเวิร์ดก็ถูกเชิญชวนให้ไปเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดที่ร้านของ Starbucks
ในค่าจ้างที่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของเงินเดือน ณ ปัจจุบันซะอีก และในปี 1982 Howard Schultz ก็ตัดสินใจย้ายมาทำงานที่ร้าน Starbucks ใน Seattle
Howard เกษียณตัวเองออกจาก Starbucks อย่างเป็นทางการ แต่ยังคงตำแหน่ง Chairman Emeritus ด้วยอายุ 65 ปี
ปัจจุบัน Starbucks มีสาขา 30,000 กว่าสาขาทั่วโลก นับเป็นความสำเร็จของร้านกาแฟเล็กๆ ในเมืองซีแอตเทิล ที่เติบโตอย่างยิ่งใหญ่ เป็นมากกว่าร้านกาแฟที่คนทั่วโลกยอมรับ
ด้วยความเชื่อและหลงรักในกาแฟของชายคนหนึ่งที่ชื่อ ‘Howard Schultz’ นั่นนับว่าเป็นความทะเยอทะยานอย่างสุดขั้วของ Howard Schultz จึงทำให้ในปัจจุบันเขามีทรัพย์สินรวมกันกว่า
2.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว ๆ 9 หมื่นล้านบาท ที่เป็นมหาเศรษฐีที่สร้างฐานะขึ้นมาได้ด้วยตนเอง
สำหรับรายได้ของสตาร์บัคส์ทั่วโลกในปี 2560 อยู่ที่ประมาณ 22,400 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 694,400 ล้านบาท
(อัตราแลกเปลี่ยน 31 บาทต่อ 1 ดอลลาร์) มีสาขาทั่วโลกประมาณ 28,000 สาขา ใน 73 ประเทศ
สำหรับแบรนด์กาแฟที่ทำรายได้สูงอีกแบรนด์หนึ่งในไทย คือคาเฟ่ อเมซอน ของกลุ่มปตท.ที่เปิดบริการเมื่อปี 2545
จำนวนสาขาในปัจจุบันมีประมาณ 2,000 สาขา โดยส่วนใหญ่เป็นร้านแฟรนไชส์ เฉลี่ยขายราคาแก้วละ 35-80 บาท
มีรายได้ 8,000 ล้านบาทในปี 2559 จากปี 2556 ที่มีรายได้ 3,000 ล้านบาท
ซึ่งทำให้เห็นได้เลยว่า รายได้ของสตาร์บัคนั้นยืนหนึ่งกว่าร้านทั่วไป 5 ปีซ้อน