Pagerie แบรนด์แฟชั่นของน้องหมา ร า ค า หลักหมื่น ที่ ก ล้ า ใช้โรงฟอกหนังเดียวกับ Hermès
อย่าเห็นว่าเป็นแค่ “ปลอกคอของน้องหมา” แล้วจะมาดู ถู ก กันได้ ว่าไม่มี ร า ค า ค่างวด เพราะถ้าเห็น ร า คา ของปลอกคอหนังที่แบรนด์ Pagerie (อ่านว่า ปา-เฌอ-รี) แฟชั่นเฮาส์ สำหรับน้องหมาจากสหรัฐอเมริกา หลายคนอาจต้องขยี้ตา คิดว่าดูผิด เพราะ ร า ค า แรงไม่แพ้ลักชัวรีแบรนด์ ที่แตกไลน์มาทำแอกเซสซอรีของสัตว์เลี้ยงเลย
โดยแค่ปลอกคอหนังที่คุ้นตา ก็สนน ร า ค า อยู่ที่ 12,700 บ า ท แต่ถ้าเป็นปลอกคอรุ่นท็อปขึ้นมาหน่อย ใส่แล้วน้องหมาดูเท่ขึ้นทันตา สนน ร า ค า จะอยู่ที่ 24,000 บ า ท และถ้าหากอยากได้สายจูงหนัง มาแมตช์แบบครบชุด ก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก 17,300 บ า ท
เรียกได้ว่า เจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องเตรียมควั ก กระเป๋าก้อนโต เพราะร า ค า แทบไม่ต่างจากการถอยกระเป๋าแบรนด์เนมใบใหม่มาถือเก๋ ๆ เลย อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยว่า แล้วแบรนด์ Pagerie มีที่มาอย่างไร ? ทำไมถึงก ล้ า ตั้งร า ค า สินค้าถึงหลักหมื่น ?
จะเรียกว่าเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งแจ้งเกิดได้ไม่นานก็ว่าได้ สำหรับ Pagerie เพราะเพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2019 โดยเจ้าของไอเดียนี้คือ คุณ Mandy Madden Kelley อดีตทนายความสาวที่ผันตัวเองแบบสุดขั้ ว มาเป็นบิวตีอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้เธอลุกขึ้นมาทำแบรนด์แฟชั่นน้องหมา ก็เพราะความรักหมาเป็นทุนเดิม แต่เพิ่มเติมด้วยเหตุผลที่ส ะ กิ ด ใจให้ต้อง ลุ ก ขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง จากประสบการณ์ตรงที่เจอกับตัว หลังจากเธอย้ า ย ตามสามีมาอยู่ที่ลอสแอนเจลิส
เธอพบว่าหลายครั้งเวลาไปกินร้านอาหารนอกบ้าน หรือแม้แต่งานอีเวนต์ งานแฟชั่น เธอจะรู้สึกขั ด ใจทุกครั้งที่เห็นคนที่มิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าหน้าผมมาแบบ จั ด เต็ม แต่ดันต้องมาต ก ม้าตาย เพราะแอกเซสซอรีที่ใส่ให้น้องหมาที่พามาด้วย อย่างปลอกคอ หรือสายจูงพลาสติกที่ดูแล้ว ไม่ได้บ่งบอกรสนิยมของเจ้าของเอาเ สี ย เลย พอเป็นแบบนี้ ในฐานะคนรักหมา คุณ Kelley เลยอยากจะ ส น อ ง ความต้องการลึ ก ๆ ของตัวเอง ที่อยากจะออกแบบไอเทมที่ตอบโจทย์คนรักหมาในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่การออกแบบ ไปจนคุณภาพของวัสดุที่ใช้
เพราะต่อให้บรรดาลักชัวรีแบรนด์อย่าง Hermès, Goyard, Louis Vuitton หรือ Dior จะตบเท้ามาจั บ ตลาดสัตว์เลี้ยง แตกไลน์เสื้อและแอกเซสซอรีของน้องหมา ที่มีตั้งแต่ ปลอกคอ, ชามข้าว ไปจนถึงเตียงนอน แต่ในฐานะท า ส หมา เธอก็ยังรู้สึกว่า ยังไม่เจอชิ้นที่ถูกใจ และรู้สึกว่าเป็นชิ้นที่เล อ ค่ า ในแบบที่น้องหมาคู่ควร
เพราะเธออยากให้เจ้าของน้องหมารู้สึกว่า การลงทุนซื้อไอเทมดี ๆ ให้สัตว์เลี้ยง ก็ไม่ต่างจากการลงทุนซื้อกระเป๋าดี ๆ สักใบมาใช้ อย่างไรก็ตามแม้ความตั้งใจจะเกินร้อย แต่เพราะไม่ได้มีประสบการณ์ในสายนี้มาก่อน กว่าจะตีโจทย์ทุกข้อให้ออกมาตรงใจ ก็ยิ่งยากเป็น ท วี คู ณ ตั้งแต่การตามหาวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่จะนำมาใช้ เพราะอย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่า คุณ Kelley ไม่ป ลื้ ม กับปลอกคอและสายจูงพลาสติก เธอจึงเบนเข็มมาใช้วัสดุอย่าง “หนัง” แต่ก็ไม่ใช่หนังธรรมดา เพราะเธอเลือกใช้หนังที่มาจากโรงฟอกเดียวกับที่ Hermès
แบรนด์กระเป๋าหนังระดับตำนาน ใช้ผลิต Birkin กระเป๋าในตำนาน ที่ร า ค า สูงถึงหลักล้าน ในส่วนของฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ เช่น ห่วงหรือตัวล็อก เธอเลือกใช้วัสดุเกรดเดียวกับที่ใช้ในเรือยอช์ต เพื่อความทนทาน สวยงาม และไม่ต้องกลัวว่าใช้ไปนาน ๆ แล้วจะมีสี ห ลุ ด ล อ ก ซึ่งกว่าจะได้วัสดุที่ตอบโจทย์มาว่ายากแล้ว เธอยังต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะหาโรงงานที่ผลิตฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ได้ตรงสเปกที่วางไว้
นอกจากนั้น คุณ Kelley ยังได้เฟ้นหาช่างฝีมือชั้นยอด ที่มีการ สื บ ทอดภูมิปัญญากันมาแบบรุ่นต่อรุ่นในการตั ด เ ย็ บ ทุกไอเทมด้วยมือ เรียกได้ว่าเป็นการรังสรรค์ทุก ๆ องค์ประกอบ ให้ออกมาไร้ที่ติ ตั้งแต่วัสดุ ไปจนถึงกระบวนการผลิต ภายใต้หัวใจสำคัญอย่าง “การดีไซน์” ที่ดู “มินิมัลสุด ๆ” แต่กลับมีรายละเอียดที่น่าสนใจซ่อนอยู่ อย่างปลอกคอรุ่น The Babbi ที่น้องหมาใส่แล้ว จะดูองอาจเหมือนอาชา นั่นก็เพราะคุณ Kelley และทีมงาน ได้แรงบันดาลใจมาจาก “ม้า” ที่มีท่วงท่าที่สง่า
เลยเอาไอเดียของอานม้ามาใช้ โดยปรับให้เข้ากับส รี ร ะ และการเคลื่อนไหวของน้องหมา หรือสายจูง The Tascher ก็มีการเติมฟังก์ชันเข้ามาให้สามารถเพิ่มแอกเซสซอรี อย่างกระเป๋าเล็ก ๆ สำหรับเก็บของ จุ ก จิ ก อย่างถุงเก็บอุนจิน้องหมา เวลาพาออกไปข้างนอก เป็นต้น
เท่านั้นยังไม่พอ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึก คุ้ ม ค่ า สมกับ ร า ค า ที่ จ่ า ย ไป แต่ด้วยความที่ Pagerie ไม่ได้มีหน้าร้านให้ลูกค้า ต้องสั่งซื้อออนไลน์เท่านั้น คุณ Kelley จึงเล่นใหญ่ ด้วยการนำกิมมิกเก๋ ๆ ของบรรดาลักชัวรีแบรนด์มาเพิ่มประสบการณ์ให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบกล่องให้ดูเรียบหรู โดยเลือกใช้สีเบจ ที่ดูสบายตา เมื่อเปิดกล่องออกมา จะเจอกับถุงผ้าฝ้ายที่ใช้บรรจุปลอกคอ หรือสายจูงที่ลูกค้าเลือกมาเป็นอย่างดี แนบมาพร้อมใบรับประกันที่ยืนยันว่าของที่ส่งมาเป็นของแท้
เรียกได้ว่า สมกับเป็นแบรนด์ที่เกิดมา เพื่อเจาะตลาดคนรักน้องหมาที่เป็นสายเปย์ไม่พอ ต้องกระเป๋าหนักจริง ๆ แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้ไม่ต้องห นั ก ใ จ และถึงจะเปิดตัวมาไม่นานก็เจอกับส ถ า น ก าร ณ์ โ ร ค ร ะ บ า ด แต่คุณ Kelley เชื่อว่าวิ ก ฤ ติ ครั้งนี้ ยิ่งทำให้คนเห ง า และเลือกจะมีสัตว์เลี้ยงไว้ข้างกาย บวกกับ เทรนด์การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแบบรักเหมือนลูก หรือ Pet Parent ก็น่าจะทำให้ตลาดสัตว์เลี้ยงยิ่งโตต่อเนื่อง
ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า ในอนาคต คุณ Kelley อาจจะต้องขยายฐานลูกค้า ด้วยการไปเจาะกลุ่ม ท า ส แมวด้วย เพราะก็ถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่ใหญ่ไม่น้อยกว่ากลุ่มผู้เลี้ยงสุนัขเลย เพราะอย่าลืมว่า ยิ่งตลาดสัตว์เลี้ยงหอมหวานเท่าไร ก็ย่อมมีคู่แ ข่ ง ที่หมายตาจะเข้ามา ชิ ง ตลาด โดยเฉพาะบรรดาลักชัวรีแบรนด์ที่ไม่ได้มีแค่ฐานแฟนขนาดใหญ่อยู่แล้ว แต่เมื่อบวกกับชื่อเสียงของแบรนด์ ชนิดที่ว่าแค่เห็นโลโกหรือลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ก็เป็นการการันตีถึง คุ ณ ภ า พ และความห รูหรา ที่ลูกค้าพร้อมจะ ค วั ก เ งิ น จ่ า ย
ผิ ด กับแบรนด์ที่เพิ่งแจ้งเกิด การจะพิสูจน์ให้ลูกค้าเชื่อว่าดีไซน์ และ คุ ณ ภ า พ คับแก้วสม ร า ค า ก็ต้องใช้เวลาและถือว่าเป็น โ จ ท ย์ ที่หินไม่น้อยเลยทีเดียว.. ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ รู้หรือไม่ว่า ชื่อของ Pagerie มาจากชื่อ Marie Josèphe Rose Tascher de La Pagerie ซึ่งเป็นชื่อเดิมของ พระนาง Joséphine Bonaparte หญิง ม่ า ย ผู้เป็นรักแรกพบของ “จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส” และ ส า เ ห ตุ ที่คุณ Kelley เลือกชื่อนี้ ก็เพราะนอกจากจะอินกับ โ ศ ก น า ฏ ก ร ร ม ความรักของทั้งคู่แล้ว พระนาง Joséphine Bonaparte ยังมีสัตว์เลี้ยงที่เป็น “น้องหมา” อีกด้วย..
อ้างอิง longtungirl