X

LA BELLA แบรนด์รองเท้าคนไทย ใส่สบาย ที่ขายดี จนลูกค้าต้องรีบ CF

LA BELLA แบรนด์รองเท้าใส่สบาย ที่ขายดี จนลูกค้าต้องรีบ CF

สวย ใส่สบาย ไม่กัด คงเป็น 3 คุณสมบัติของรองเท้าที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มองหา แต่ที่ผ่านมา ไม่ใช่รองเท้าทุกคู่ที่จะตอบโจทย์ได้ครบทั้ง 3 ข้อ เพราะบางคู่ใส่สวย แต่ ท ร ม า น คนใส่ หรือบางคู่ ใส่สบายในตอนแรก แต่พอเดินเยอะ ๆ ก็เริ่ม กั ด ดังนั้น จึงไม่ แ ป ล ก ที่เมื่อมีแบรนด์รองเท้าแบรนด์ไหน ที่สามารถแก้โจทย์ทั้ง 3 ข้อได้แบบ 3 in 1 ก็เหมือนเป็นสปริงบอร์ด

ซึ่งเรื่องนี้ ช่ ว ย ให้แบรนด์ LA BELLA ติดตลาดอย่างร ว ด เ ร็ ว  และสามารถสร้างยอดข า ย แตะหลักร้อยล้าน บ า ท ได้ตั้งแต่ปีแรก ต่อให้เป็นช่วงวิ ก ฤ ติ  โ ค วิ ด  19 ที่สาว ๆ ไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน แต่ก็ยังกด CF รองเท้ากันเข้ามาอย่างไม่ข า  ด ส า ย เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า ถ้า มั ว ลั ง เ ล อาจพ ล า ด โอ ก า ส ที่จะได้เป็นเจ้าของรองเท้า ที่จัดเต็มทั้งแฟชั่นและฟังก์ชัน จนออกมากี่คอลเลกชันก็ข า ย หมดอย่างรวดเร็ว

แล้วอะไรที่ทำให้ LA BELLA แจ้งเกิดได้ ท่ามกลางตลาดรองเท้าแฟชั่นที่ไม่ต่างจากน่ า น น้ำสี เ ลื อ ด  LA BELLA เป็นแบรนด์รองเท้าสัญชาติไทย ที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2018 หรือเมื่อ 4 ปีก่อน ก่อตั้งโดยคุณแอน-ดร.บรินดา แฮนเซ่น และคุณพิรีพรรณ อนุพงษ์ไพบูลย์ สองนักธุ ร กิ จ สาวผู้คร่ำ ห ว อ ด อยู่ในวงการเครื่องหนังมากว่า 10 ปี แถมยังมีประสบการณ์ในการทำธุ ร กิ จ ออนไลน์มา​อย่างโชกโชน และเป็นวิทยากรที่สอนด้านนี้โดยตรง

คุณแอนบอกว่าตอนที่เพื่อนชวนให้มาทำแบรนด์รองเท้า เป็นช่วงที่เธอตั้งท้องพอดี แต่เพราะมี Pain Point ไม่ต่างจากผู้หญิงหลายคน คือ ซื้อรองเท้ามาแล้ว แทบจะไม่มีคู่ไหนที่ไม่กัดเท้า เลยเหมือนเป็นปมในใจที่อยากแก้ พอมีโอกาสมาทำแบรนด์เอง โจทย์ที่ตั้งใจตั้งแต่วันแรก จึงอยากทำรองเท้าที่ดี

เพื่อให้ผู้หญิงสวยแบบไม่ต้องแลกกับความเ จ็ บ ป ว ด จากรองเท้าที่กัด ใส่ไม่สบาย หรือเดินแล้วเมื่อย เนื่องจาก อย่าลืมว่า แม้รองเท้าบางแบบจะมีหน้าตาเหมือนกันก็จริง แต่สิ่งที่ทำให้รองเท้าธรรมดาเกิดความแต ก ต่ า งได้ ก็คือ คุ ณ ภ า พ

เหมือนอย่างที่ผู้ใหญ่ที่คุณแอนเคารพเคยบอกไว้ว่า “เวลาทำงาน ให้ไ ล่ ล่ า คุณภาพ อย่าไ ล่  ล่ า เ งิ น เพราะถ้าเราทำงานที่ได้คุณภาพ สุดท้ายเ งิ น จะมาเอง” นี่คือข้อคิดที่คุณแอนยึดถือมาตลอด และทำให้ไม่ท้ อ  ต่อให้ต้องใช้เวลาในการ พั ฒ น า รองเท้าเป็นปี กว่าจะได้คู่ที่เธอมั่นใจว่า “เป็นคู่ที่ใช่” จริง ๆ ถึงได้เปิดตัวแบรนด์

“ตอนที่ทำแบรนด์ แอนอายุ 42 ปี ซึ่งเป็นวัยที่เรามาถึงจุดที่เราไม่ได้ซีเรียสกับชีวิต เราแค่อยากทำของดีออกมา ข า ย   ทำแล้วต้องรู้สึกดีกับผลงานที่ออกมา เพราะฉะนั้น ตอนที่เราพัฒนารองเท้า ต่อให้เราป ร ะ ห ยั ด ต้ น ทุ น ได้ ด้วยการเลือกวัสดุเกรดรองลงมาหน่อย หรือเลือกใช้โรงงานที่ร า ค า ถูก แต่เราไม่ทำ เพราะเราอยากได้ของที่ดี”

ซึ่งถ้าจะให้นิยาม ความใส่ใจจนออกมาเป็น LA BELLA คุณแอนบอกว่าจุด แ ข็ ง ของแบรนด์ คือ God is in the detail หมายถึง ควา ม พิ ถี พิ ถั น  และใส่ใจในรายละเอียดแม้เป็นสิ่งที่เล็กน้อยที่สุด เพราะเธอเชื่อว่า เมื่อเอาใจใส ลงไป​ จากสิ่งเล็ก ๆ ก็จะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ที่บอกว่าใส่ใจ และพิถีพิถันนั้น มากขนาดไหน ? คุณแอนอธิบายให้เห็นภาพว่า LA BELLA เป็นแบรนด์รองเท้าแฟชั่นเจ้าแรกของเมืองไทย ที่ผ ส ม ผ ส า น ความงดงามทางแฟชั่น และหลักสรีรศาสตร์เท้า ของรองเท้ า สุข ภ า พเอาไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว

เริ่มจากโครงของรองเท้าที่ผลิตให้เป็นแบบซอฟต์ คูชัน (Soft Cushion) ด้วยเทคนิคการบุคูชันด้านใน ให้หนาพิเศษถึง 5 มิลลิเมตร ทำให้รู้สึก นุ่ ม ส บ ายเท้า แม้คนที่เป็นโ ร ค ร อ งช้ำ หรือเอ็นฝ่าเ ท้ า อั ก เ สบ ก็ สามารถสวมใส่ได้ ส่วนส้นรองเท้า เป็นดีไซน์พิเศษแบบ Body Weight Distribution ที่ช่วยรองรับน้ำหนักบริเวณอุ้งเท้า และกระจายน้ำหนักตัวได้เป็นอย่างดี ต่อให้ใส่เดินเยอะหรือนานก็ห า ย ห่ ว ง

“รองเท้าทุกคู่ก่อนจะวาง ข า ย  หุ้นส่วนของแอน ซึ่งเขาเดินทางไปต่างประเทศบ่อย เขาจะต้องเอาไปทดลองใส่เดิน ว่าจะต้องไม่กั ด  หรือไม่เมื่อย ถ้ายังใส่ไม่สบาย ก็จะเอากลับมาแก้ จึงทำให้ LA BELLA กล้าโปรโมตว่า ใส่เดินเป็นหมื่นก้าว ก็ไม่เ มื่ อ ย  ไปต่างประเทศก็ใส่เดินได้เหมือนรองเท้าผ้าใบ”

ส่วนวัสดุที่ใช้ยังผลิตจากหนังลูกแกะ จึงทำให้รองเท้ามีสัมผัสที่นุ่มสบายกว่ารองเท้าทั่วไป มีการวิเคราะห์ไปถึงจุดมาตรฐานที่รองเท้ามักกัด เช่น ด้านหลัง, ข้างนิ้วก้อย, หัวนิ้วโป้งตรงที่บางคนมีก ร ะ ดู ก โ ป น  ออกมา รวมถึงมีการออกแบบหน้าเท้าให้มีความ ยื ด ห ยุ่ น  เมื่อสวมใส่แล้วจะไม่รู้สึกบี บ เท้า แต่เท้ายังดูเรียวสวย และยังใช้การบุคูชันด้านหลัง เพื่อล ดการเ สี ย ดสีขณะก้าวเดิน

แน่นอนว่า สินค้าว่าปังแล้ว กลยุทธ์ในการปั้นแบรนด์ก็สำคัญ เพื่อไม่ให้แบรนด์ต ก ม้ า ต า ย ตั้งแต่เปิดตัว คุณแอนได้เลือกใช้​การสร้าง “Winning Product” โฟกัสที่การพัฒนาสินค้าตั้งแต่ก่อนเปิดตัว เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า

ด้วยวิธีคิดแบบนี้เอง ทำให้แม้ในช่วงแรก LA BELLA จะเริ่มจากการเจาะกลุ่มเพื่อนและคนรู้จัก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ภูมิใจ คือ ลูกค้ากลุ่มนี้ ไม่ได้ซื้อแค่ครั้งเดียว เพราะเ ก ร ง ใ จและไม่กลับมาซื้ออีกแล้ว แต่ส่วนใหญ่กลายมาเป็นลูกค้าประจำ ที่กลับมาซื้อซ้ำ และบอกต่อ

พอสินค้าไปต่อได้ บวกกับการทำการตลาดที่ถูกจุด มีการใช้ช่องทางออนไลน์ในการโปรโมตแบรนด์ ทำให้ผลลัพธ์ ไม่ใช่แค่ออร์เดอร์ที่หลั่ ง ไ ห ล เข้ามา แต่แบรนด์ยังติดตลาด และขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในรองเท้าที่เป็นตัวเลือกของสาว ๆ ได้ไม่ย า ก  การั น ตี ความฮ อ ต ได้ ด้วยก ร ะ แ ส ตอบรับที่ยังไม่แ ผ่ ว  แม้แต่ในช่วงที่เกิดวิ ก ฤ ติ โค วิ ด  19 ออร์เดอร์ที่เข้ามาก็ยังต่อเนื่อง ทั้ง ๆ ที่เป็นช่วงที่หลายคนต้องกั ก ตั วอยู่บ้าน

คุณแอนคาดว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ นอกจากช่องทางหลักของแบรนด์จะอยู่ทางออนไลน์ ซึ่งตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคn อาจเป็นเพราะที่ผ่านมา คอลเลกชันต่าง ๆ ที่ออกมา ข า ย ดีจนถ้าใครช้า ก็ พ ล า ด โอกาสที่จะได้เป็นเจ้าของรองเท้าในแบบและสีที่หมายตา ดังนั้น ต่อให้ไม่ได้ออกไปไหน ลูกค้าก็อยากจะ CF ไว้ก่อน

ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณแอนมองว่า การจะ ทุ่ ม เ ท ให้กับงบ โ ฆ ษ ณ า เท่าไรไม่สำคัญแต่ทำแล้วต้องอย่า ลื ม วัดผล ROAS (Return on ads spending) หรือ ยอด ข า ย ที่ได้จากการลงโฆษณาว่าได้กลับมาเท่าไร เมื่อเทียบกับเงิ น ค่ า โฆษณาที่จ่ า ย ออกไป“แอนมองว่า การวัดผลประสิทธิภาพของโฆษณา เป็นเหมือนการดูพอร์ตหุ้ น  คือถ้าดูเรียงตัวได้ก็ดีแต่ถ้าไม่ได้ อาจจะมองภาพรวมของพอร์ต เพราะไม่ใช่โ ฆ ษ ณ า ทุกตัวที่ทำออกไปจะข า ย ดี

แค่ประเมินว่า การทำโฆษณาของเรามีประสิทธิภาพหรือไม่”สำหรับเป้าหมายในอนาคต คุณแอนบอกว่า จากวันแรกที่สร้างแบรนด์ เธอใช้ความภาคภูมิใจที่ได้ทำรองเท้าที่ดีเป็นที่ตั้งแต่ในอนาคต เธออยากเห็นแบรนด์รองเท้าของไทยได้สยายปีกไปมีเอาต์เล็ตในต่างแดน

ส่วนประเด็นที่หลายคนอาจจะมองว่า คู่แข่งในตลาดรองเท้าแฟชั่นบ้านเราดุเดือดคุณแอน ทิ้ ง ท้ า ย ไว้อย่างน่าสนใจว่า รองเท้าคัตชู เป็นไอเทมคู่ใจของผู้หญิงมาช้านานดังนั้น จึงไม่ แ ป ล กที่ในตลาดจะมีตัวเลือกมากมาย ทั้งแบรนด์นอกและแบรนด์ไทย

คุณแอนไม่ได้มองว่าตัวเองกำลังแข่งขันกับใคร แต่เรามีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น เพื่อท้าทายตัวเองอยู่ตลอดเวลาไปถึงจุดที่ตั้งไว้เราดีใจ และขยับเป้าหมายไปเรื่อย ๆแทนที่จะมัวมองซ้ายหรือมองขวา เราก็ทำในจุดที่เรายืนให้ดีที่สุด และเชื่อมั่นว่า ตลาดรองเท้าแฟชั่นไทยยังไปได้อีก “เราทำ ธุ ร กิ จ มาเยอะ เรามองว่า  ธุ ร กิ จ ก็มีว ง จ ร ชีวิตผลิตภัณฑ์ (Product Life Cycle)ช่วงเติบโต (Growth) ก็ต้องทำแบรนด์ให้โตเร็วที่สุดแต่พอเข้าสู่ช่วงอิ่ ม ตัว (Maturity) ก็ต้อง รั ก ษ า ไว้ให้ได้นานที่สุด ซึ่งสำหรับ LA BELLA ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเติบโต ซึ่งกลยุทธ์ไหนก็ไม่สำคัญ เท่ากับการตั้งคำถามในทุกวันว่าเราทำดีที่สุดแล้วหรือยัง ?”