จากไส้กรอกอีสานสู่แคบหมูที่เริ่มต้นด้วยทุ น 50 ด อ ล ล า ร์ ส ห รั ฐ
“อาหารไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก” อาจไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริง เพราะตอนนี้ มีแบรนด์ “แคบหมู” สัญชาติไทย ที่ประสบความสำเร็จใน “ฮาวาย” อย่าง Chao Siam ซึ่งมีวางจำหน่ายในเชนร้านค้าปลีกรายใหญ่ เช่น Walmart, Foodland, 7-Eleven และ ABC Stores
แล้วเรื่องราวของธุ ร กิ จ แคบหมู Chao Siam น่าสนใจอย่างไร แบรนด์ Chao Siam (ชาวสยาม) ก่อตั้งโดยคุณธนะโรจน์ ธีรชัชวาลวัฒน์ ในวัย 23 ปี ซึ่งในขณะนั้น คุณธนะโรจน์เพิ่งเรียนจบระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ที่จังหวัดเชียงใหม่ และมีโอกาสย้ายมาอยู่กับคุณพ่อที่รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณธนะโรจน์ที่ชอบการค้าข า ย เป็นทุ นเดิมอยู่แล้ว จึงเริ่มมองเห็นช่องทางในการทำธุ ร กิ จ ในฮาวาย เพื่อส่งเ งิ น ให้กับคนอื่น ๆ ในครอบครัวที่ประเทศไทย โดยธุ ร กิ จแรกที่เขาตั้งใจจะสร้างขึ้น กลับไม่ใช่ธุ ร กิ จแคบหมูที่กล่าวไปข้างต้น แต่เป็นธุ ร กิ จ “ไส้กรอกอีสาน” เมนูของกินเล่นของไทย ที่มีรสชาติเฉพาะตัว
เนื่องจากตอนนั้น ที่ฮาวายมีร้านอาหารไทยเกิดขึ้นมากมาย แต่ทุก ๆ ร้านก็มักจะมีเมนูอาหารที่ดูคล้ายกันไปหมด สิ่งนี้เอง ทำให้คุณธนะโรจน์พยายามหาเมนูอาหารไทย ที่แทบจะไม่มีใครทำในตอนนั้น จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาสูตรไส้กรอกอีสานในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม การทำไส้กรอกอีสาน ในพื้นที่ ที่ไม่ได้มีเครื่องปรุง หรือวัตถุดิบดั้งเดิมครบถ้วน บวกกับความยากในการปรับรสชาติให้ถูกปากคนอเมริกัน ทำให้ไส้กรอกอีสานได้รับผลตอบรับที่ไม่ค่อยดีนัก
นอกจากนี้ คุณธนะโรจน์ก็ยังไม่มีประสบการณ์ในการทำการตลาด บวกกับเ งิ นทุ นที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้ธุ ร กิ จ ไส้กรอกอีสาน ไม่ประสบความสำเร็จดังที่เขาหวังไว้ แต่ด้วยความมุ่งมั่น เขาจึงคิดและมองหาเมนูอาหารไทยใหม่ ๆ อีกครั้ง จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของธุ ร กิ จ แคบหมู “Chao Siam” ในปี 2013
ซึ่งในเวลานั้น เขามีเ งิ นทุ นเพียงแค่ 50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 1,800 บ า ท เพื่อซื้อหนังหมูมาทำแคบหมู ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้เพียงไม่กี่ถุงเท่านั้นแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะคุณธนะโรจน์รู้ดีว่าเขามีเ งิ นทุ นที่จำกัด และไม่อยากเสี่ยงโดยการไปกู้เ งิ น ก้อน
เขาจึงตัดสินใจลองนำแคบหมูทั้งหมดที่มี ไปฝากข า ย ที่ร้านค้าในย่านไชนาทาวน์ ซึ่งผลตอบรับกลับดีเกินคาด เพราะแคบหมูที่นำไปฝาก ข า ย นั้น หมดไวกว่าที่คิด ทำให้คุณธนะโรจน์ตัดสินใจขยายกิจการอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยตัวของเขาเองก็ยังคงทำงานอื่นควบคู่ไปด้วย เนื่องจากการผลิตในแต่ละครั้ง ต้องใช้เ งิ น ทุ นสูง
จนกระทั่งรายได้จากการ ข า ย แคบหมู มีมากกว่ารายได้จากงานประจำ คุณธนะโรจน์จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำ และเดินหน้ากับธุ ร กิ จ แคบหมู Chao Siam อย่างเต็มตัว โดยเริ่มต้นจากการจ้างพนักงาน และค่อย ๆ ขยับมาเช่าพื้นที่ในการทำโรงงาน ไปจนถึงการทำโรงงาน และควบคุมเรื่องสุขอนามัยให้ถูกต้องตามกฎหมาย จนได้รับใบอนุญาตในที่สุด หลังจากนั้น คุณธนะโรจน์จึงวางแผนการตีตลาดใหม่สำหรับธุ ร กิ จ แคบหมู
โดยในช่วงแรกก็ยังวาง ข า ย แคบหมูในร้านค้าเล็ก ๆ ทั่วไปก่อน แล้วจึงค่อยขยายจำนวนร้านค้าที่รับแคบหมูไป ข า ย เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ฐานลูกค้าก็จะมีมากขึ้นตามไปด้วย และเมื่อมีคนสนใจสินค้ามากขึ้น ร้านค้ารายใหญ่ หรือซูเปอร์มาร์เกตก็จะติดต่อเข้ามาเอง
ซึ่งแน่นอนว่า คุณธนะโรจน์ก็จะมีอำนาจในการต่อรองมากขึ้น และไม่จำเป็นจะต้องทำตามข้อจำกัดบางอย่าง เช่น การผูกขาดตลาดกับเจ้าใหญ่ ๆ นั่นเอง ปัจจุบัน แคบหมู Chao Siam จึงมีวาง ข า ย ทั้งในร้านค้าเล็ก ๆ ไปจนถึงซูเปอร์มาร์เกตชั้นนำของรัฐฮาวาย เช่น Walmart, Foodland, 7-Eleven, ร้านค้าตามปั๊มน้ำมัน รวมถึง ABC Stores ที่แคบหมู Chao Siam ถูกจัดอยู่ในหมวดของทอด ข า ย ดีประจำร้าน เลยทีเดียว
โดยแคบหมู Chao Siam ขนาด 75 กรัม มีร า ค า อยู่ที่ราวถุงละ 250 บ า ท ซึ่งเมื่อเทียบแล้ว ก็จะมีขนาดประมาณขนมขบเคี้ยวถุงใหญ่ แต่ในด้านร า ค า กลับสูงกว่าแคบหมูในประเทศไทย ที่มีร า ค า ประมาณหลักสิบ บ า ท เท่านั้น แล้วถ้าถามว่า จุดเด่นของแคบหมู Chao Siam คืออะไร ?
จริง ๆ แล้ว ก็คือ ความเป็นแคบหมูแบบไทย ๆ ที่มีสัมผัสของความกรอบ ไม่มันจนเกินไป ไม่มีกลิ่นคาวหมู รวมทั้งยังไม่มีส่วนผสมของผงชูรส ซึ่งความอร่อยนี้ เกิดจากกรรมวิธีในการผลิตที่พิถีพิถัน โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการต้ม จากนั้นก็นำหนังหมูไปตากหรืออบแห้ง แล้วจึงนำไปทอด
ทำให้แคบหมูของแบรนด์ Chao Siam จะมีความกรอบ รสชาติไม่จัด และให้สัมผัสที่เหมือนกับขนมขบเคี้ยวอีกทั้งในปัจจุบัน ยังมีการขยายไลน์สินค้า ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่รักสุขภาพ อย่างแผ่นข้าวทอดกรอบผสมเมล็ดแมคาเดเมีย หรือมันฝรั่ง และเผือกทอดอีกด้วย
เรียกได้ว่า เรื่องราวของคุณธนะโรจน์ เจ้าของธุ ร กิ จ แคบหมู Chao Siam ในฮาวาย อาจช่วยสร้างแรงบันดาลใจ สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นทำ ธุ ร กิ จ แต่มีเ งิ น ทุ นที่จำกัด ซึ่งอาจเริ่มต้นจากการค่อยเป็นค่อยไป เพื่อสร้างฐานลูกค้าเล็ก ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ขยับไปสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้นนั่นเอง..