แค่อยากทำสวน จั บ พ ลั ด จับผลู สู่เจ้าของ คราฟต์ช็อกโกแลตไทย
ด้วยความตั้งใจอันแ ร งกล้าของหนุ่มเชียงใหม่คนหนึ่ง ที่อยากยกระดับเพิ่ม มู ล ค่ า ผลผลิตการเกษตรไทย โดยเฉพาะ โกโก้ ให้กลายเป็นพลังขับเคลื่อน ม ห า ศ า ล สร้างธุรกิจคราฟต์ช็อกโกแลตระดับพรีเมี่ยมสัญลักษณ์ไทยแท้ ที่โดดเด่นตั้งแต่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม รังสรรค์รสชาติจากวัฒนธรรมไทยในสไตล์สากลอย่างลงตัว
หลังประสบความสำเร็จจาก ธุ ร กิ จ การ เ งิ น คุณธนา คุณารักษ์วงศ์ หรือ คุณท็อป หนุ่มเชียงใหม่ คิดว่า ความสำเร็จส่วนตัว ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้าย แต่การสร้างและส่งต่อประโยชน์ไปสู่คนอื่นๆ โดยรอบ ย่อมมีคุ ณ ค่ า มากกว่า จึงตั ด สิ น ใ จ ลุกมาทำสวนเกษตรปลูก “โกโก้” เพราะเห็นถึง ปั ญ ห า และโอกาสในเวลาเดียวกัน
“ปัจจุบัน ผงโกโก้นำเข้าจากต่างประเทศ ร า ค า ถูกกว่าในประเทศ ผู้ซื้ อ จึงไม่นิยมซื้อผลโกโก้จากเกษตรกรไทย แต่ในขณะเดียวกัน ช็อกโกแลตที่แปรรูปจากวัตถุดิบโกโก้ เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ดังนั้น หากสามารถสร้างช็อกโกแลตระดับพรีเมี่ยมแบรนด์ไทย ทำจากวัตถุดิบโกโก้ที่ปลูกในเมืองไทย ให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล ผมเชื่อว่า จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรโกโก้ของไทยทั้งระบบ” คุณท็อป เผยถึงแรงบันดาลใจในการสร้างธุรกิจคราฟต์ช็อกโกแลต KanVela
คุณท็อป ทุ่มเทเวลากว่า 2 ปี ศึกษาและพัฒนาคราฟต์ช็อกโกแลต ให้ความสำคัญตั้งแต่แหล่งปลูก เพื่อจะได้ผลผลิตดีที่สุด โดยลงทุนสร้างสวนเกษตรของตัวเองที่ จ.เชียงใหม่ อีกทั้ง ไปให้ความรู้สนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ ปลูกโกโก้ปลอดสารพิษ รวมถึง น้องสาว (นิรมล คุณารักษ์วงศ์) มาช่วยเสริมทัพ สร้างสรรค์รสชาติช็อกโกแลตเฉพาะตัว ผสมผสานความเป็นไทยกับสากลเข้าไว้ด้วยกัน
และเพื่อจะท้าพิสูจน์ว่า สินค้าที่คิดและลงมือทำอยู่นั้น มาถูกทางแล้วหรือไม่ รวมถึง อยากรู้ความคิดเห็นจากกรรมการเพื่อนำกลับมาปรับปรุงตัวเองให้ดียิ่งขึ้น จึงส่งผลงานคราฟต์ช็อกโกแลต เข้าประกวดในเวทีระดับโลก
ผลที่เกิดขึ้นเกินคาดฝัน ช็อกโกแลต “กานเวลา” คว้ารางวัลต่างๆ มากมาย เช่น รางวัลเหรียญทองแดง 2 รางวัล จากเวที “อินเตอร์เนชั่นแนลช็อคโกแลตอวอร์ด ปี 2020” รางวัลเหรียญเงิน 4 รางวัล และเหรียญทองแดง 4 รางวัลจากเวที “อะคาเดมี่ออฟช็อคโกแลต ปี 2021” นอกจากนั้น ในเวทีดังกล่าว ยังได้รับรางวัลพิเศษจากคณะกรรมการที่มอบให้แบรนด์ดาวรุ่งที่มีความโดดเด่นน่าจับตา
จากจุดสตาร์ตผลิตในครัวเรือน และ ข า ย ผ่านออนไลน์ เมื่อพร้อมทุกด้าน รวมถึง มีรางวัลมาการันตีคุณภาพ คุณท็อปเดินหน้ายกระดับธุรกิจ ลงทุนบนที่ดินครอบครัว ใกล้สนามบินเชียงใหม่ เปิดคาเฟ่ช็อกโกแลต “กานเวลา” เมื่อปี 2563 ภายในร้านตกแต่งบรรยากาศสวยงาม โทนสีน้ำตาล อบอุ่นน่านั่งพักผ่อน ให้บริการคราฟต์ช็อกโกแลตคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ใน ร า ค า ที่จับต้องได้ง่าย ชิ้นละประมาณ 45 บ า ท
จุดเด่นทำจากวัตถุดิบช็อกโกแลตธรรมชาติแท้ๆ ไม่ผ่านการปรับแต่งกลิ่นรสด้วยสารเคมีใดๆ ทั้งสิ้น มีรสชาติเอกลักษณ์หาได้จากที่นี่ที่เดียว เช่น รสฝรั่งพริกเกลือ ตะโก้เผือก และสังขยามะพร้าวคั่ว เป็นต้น นอกจากนั้น ตกแต่งลวดลายด้วยการเพ้นต์มือ ดังนั้น คราฟต์ช็อกโกแลตของ “กานเวลา” ทุกชิ้นจึงเป็นสินค้าที่มีชิ้นเดียวในโลก
คุณธนา คุณารักษ์วงศ์ หรือ คุณท็อป
แม้จะมีสินค้าคุณภาพเยี่ยม แต่ด้วยปัจจัยภายนอก ผลกระทบจากโควิด-19 รุนแรงเกินต้านทาน ร้านไม่สามารถเปิดให้บริการได้นานนับปี ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของภาครัฐ ฉุดให้ธุรกิจขาดสภาพคล่อง แต่ปัญหาดังกล่าว ถูกบรรเทาลงเมื่อธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เข้ามาช่วยเติมทุน ควบคู่สนับสนุนด้านการพัฒนา พาเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น ส่งเสริมการตลาด พัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นต้น ช่วยให้ผ่านสถานการณ์ดังกล่าวมาได้สำเร็จ
และปัจจุบัน เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ธุรกิจ “กานเวลา” กำลังเดินหน้าเต็มตัว แตกไลน์สินค้าและช่องทางต่างๆ หลากหลาย เช่น นำคราฟต์ช็อกโกแลตไปเสิร์ฟบนสายการบินเฟิร์สคลาส รวมถึง ขยายช่องทางจำหน่าย ผ่านหน้าสาขา 2 แห่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต อีก 6 แห่ง และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ
คุณท็อป ระบุด้วยว่า ความภาคภูมิใจที่สุดของ “กานเวลา” คือ ได้ส่งต่อประโยชน์ไปสู่ภาคการเกษตร ขณะนี้มีเครือข่ายลูกฟาร์มปลูกโกโก้กว่า 150 ครัวเรือน กระจายตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยจะรับซื้อผลผลิตโกโก้ใน ร า ค า ที่สูงกว่าท้องตลาด เพื่อจูงใจให้เกษตรกรปลูกโกโก้คุณภาพดี และเมื่อมีวัตถุดิบดีนำไปแปรรูปเป็นคราฟต์ช็อกโกแลตคุณภาพ ภายใต้แบรนด์เป็นที่ยอมรับระดับสากล มั่นใจว่า จะช่วยเพิ่มมูลค่ายกระดับโกโก้ไทย สามารถปักธงในเวทีโลกได้สำเร็จ
ไม่เท่านั้น ฝันต่อไปอยากจะสร้างชื่อให้ จ.เชียงใหม่ เป็นแลนด์มาร์กของคนรักช็อกโกแลตทั่วโลก ดึงดูดให้เข้ามาสัมผัส ลิ้มรสช็อกโกแลตสัญชาติไทย พร้อมซื้อติดไม้ติดมือกลับไป ซึ่งจะสร้างประโยชน์ให้แก่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
“จุดเริ่มต้น ผมไม่ได้ตั้งใจมาทำช็อกโกแลต ผมแค่อยากทำสวนเกษตร แต่ระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ และซึมซับ คือ สิ่งที่เราทำอยู่ มันเกิดประโยชน์กับคนอื่นๆ จำนวนมาก เราสามารถช่วยให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความหวัง มีความสุข ให้ครอบครัวของเขามีความภูมิใจ เราพาช็อกโกแลตจากเมืองไทย ไปสร้างชื่อในเวทีระดับนานาชาติ ทำให้คนในระดับหมู่บ้านได้ภูมิใจและได้ประกอบอาชีพในบ้านเกิด เมื่อเขาภูมิใจ มีความสุข ก็จะมีกำลังใจที่จะพัฒนาวัตถุดิบให้ดียิ่งๆ ขึ้น นี่เป็นสิ่งที่ผมมีความสุขมากๆ” คุณท็อป กล่าวทิ้งท้าย
