เฟรนช์ฟรายด์ยาวที่ยาวที่สุดในโลก แฟรนไชส์ไปแล้วกว่า 50 สาขา ในระยะเวลาเพียง 10 เดือน
เคยกินกันหรือยัง เฟรนช์ฟรายด์ยาว 1 ฟุต “TORO FRIES” คินค้นและพัฒนาสูตรโดย 4 ผู้ร่วมก่อตั้งคนไทย ที่ตระเวนชิมเฟรนช์ฟรายด์ยาวมาแล้วทั่วเอเชีย คัดสรรวัตถุดิบ ปรับปรุงสูตรเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยที่สุด เพิ่มมิติรสชาติด้วยดิปชีสให้เลือกมากถึง 8
รสชาติ โดยมีแฟรนไชส์ไปแล้วกว่า 50 สาขา ในระยะเวลาเพียง 10 เดือน “TORO FRIES (โทโร่ฟรายส์)” ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยหุ้นส่วนทั้งหมด 4 คน หนึ่งในนั้นคือ คุณชานนท์ แสงมณี หรือ ตั้ม หนุ่มวัย 34 ปี อาสาให้ข้อมูลกับ “เส้นทาง
เศรษฐีออนไลน์” ถึงที่มาที่ไปของแบรนด์“เราทั้งหมด 4 คน ชอบเดินทางไปท่องเที่ยว ทั้งในไทยและต่างประเทศ ตามรอยรีวิวของกินไปเรื่อยๆ ที่ไหนรีวิวว่าเด็ดจะไม่เคยพลาด จนไปเจอ เฟรนช์ฟรายด์ยาวชิมแล้วรู้สึกว่า มันยังไม่ใช่ มันต้องอร่อยกว่านี้ มันต้องดี
กว่านี้ (ในใจก็คิดว่าอาจจะไม่ถูกปากสำหรับเราคนเดียวก็ได้มั้ง) เริ่มมีการคุยๆ กันในทีม จึงมีความคิดเห็นตรงกันว่ามันสามารถปรับปรุงรสชาติได้อีก เพื่อให้ถูกปากคนไทย เริ่มต้น เราคิดว่าการที่ของกินจะอร่อยเริ่มแรกวัตถุดิบต้องดี เราจึงสรรหาแหล่งวัตถุดิบที่ดีที่สุด
หาอยู่หลายที่ ทดลองอยู่หลายประเทศ จนค้นพบว่าแหล่งวัตถุดิบที่ดีที่สุดอยู่ในรัฐไอดาโฮ อเมริกา เราจึงสั่งวัตถุดิบส่งตรงจากที่นั่นและเลือกเกรดดีที่สุด” หนึ่งในผู้ก่อตั้ง เล่านำมาปรุงปรับส่วนผสม แต่กว่าจะได้สูตรที่อร่อยลงตัว คุณตั้ม บอกว่า ใช้เวลาอยู่หลาย
เดือน“ปรับแล้วปรับอีก ทดลองชิมจนเลี่ยน เลี่ยนแล้วเลี่ยนอีก หาคนมาช่วยชิมแล้วชิมอีก กว่าจะได้สูตรอัตราส่วนผสมที่ลงตัว ใช้เวลาอยู่หลายเดือน เมื่อได้สูตรที่ทางทีมคิดว่าลงตัว เราก็เริ่มออกเดินทางเพื่อไปชิมอีกครั้งทั่วเอเชีย โดยตระเวนชิมทุกร้านเท่าที่เราหาข้อมูลได้ เพื่อหาจุดเด่นจุดด้อยของแต่ละประเทศ แล้วจึงนำมาปรับสูตรอีกครั้ง เพื่อให้ถูกใจเราที่สุด ดังนั้น จึงพูดได้อย่างเต็มภาคภูมิว่า สูตรมันฝรั่งโทโร่ฟรายส์ เราคิดค้นเองทั้งหมด อาศัยการจำรสชาติ และค้นหาวัตถุดิบแต่ละตัวเองว่าควรจะใส่อะไร”ช่วงแรกของ
การทดลองขาย เป็นการออกบู๊ธแสดงสินค้า งานประจำปีประจำจังหวัดต่างๆ แต่ด้วยความแปลกใหม่ รสชาติอร่อยจนมีลูกค้าหลายท่านกลับมาซื้อซ้ำในทุกๆ วัน ทำให้มีผู้สนใจธุรกิจแฟรนไชส์ตั้งแต่ช่วงแรกๆ โดยทักมาทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเดินเข้ามาสอบถามที่หน้า
ร้าน ทางแฟนเพจ หรือทางไลน์ คุณตั้ม เล่าให้ฟังว่า ที่ได้รับผลตอบรับที่ดี น่าจะเป็นเพราะความตั้งใจที่เราใส่ลงไป เริ่มตั้งแต่วัตถุดิบ เทคนิคการทอด บริการลูกค้าหน้าร้าน และรสชาติที่ถูกปากจุดเด่นของ โทโร่ฟรายส์ คือ เฟรนช์ฟรายด์ที่ได้จะมีความหวาน
ธรรมชาติ หอมละมุน รสสัมผัสติดลิ้น โดยจะทอดสดกล่องต่อกล่อง ไม่มีการทอดทิ้งไว้รอดังนั้น ลูกค้าทุกคนจะได้เฟรนช์ฟรายด์ที่กรอบนอก นุ่มใน ร้อนๆ สดใหม่ ทุกกล่องแน่นอน มีการวัดอุณหภูมิน้ำมันตลอดช่วงการทอด ใช้การจับเวลาทอดจะได้คุณภาพ
มาตรฐานเดียวกันทุกกล่อง ยิ่งกินคู่กับชีสดิป ยิ่งเข้ากัน เพื่มมิติรสชาติขึ้นไปอีก โดยชีสดิปมีทั้งหมด 8 รสชาติ เช่น ข้าวโพด ชีสดั้งเดิม ชีสพิซซ่า ชีสบาร์บีคิว ฯลฯ ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกผสมรสได้มากถึง 4 รสชาติ ทำให้ลูกค้าไม่เบื่อ“ราคาขาย 12 เส้น 79
บาท บางท่านอาจจะคิดว่าราคาสูง อยากให้เทียบปริมาณจริงๆ กับเฟรนช์ฟรายด์ทั่วไป ปริมาณเยอะกว่า 2-3 เท่าเพราะยาวเส้นละ 1 ฟุต”และเมื่อ 10 เดือนที่แล้ว โทโร่ฟรายส์ เปิดรับผู้สนใจธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งกระแสตอบรับดีเกินคาด แฟรนไชส์เริ่มต้น 30,000
บาท ถึง 62,000 บาท เป็นราคาโปรโมชั่นในช่วงนี้ ราคาดังกล่าวไม่รวมเคาน์เตอร์ การตกแต่งร้าน“ช่วง 1-2 ปีแรกที่ยังไม่เปิดรับสมัครแฟรนไชส์ทั้งๆ ที่มีคนติดต่อเข้ามาเยอะมาก เพราะกลัวดูแลแฟรนไชซีได้ไม่ดี เขาเอาเงินมาลงทุนกับเรา ทุกคนมีความหวังและ
บางคนถึงขนาดฝากอนาคตไว้กับเรา ถ้าเราดูแลเขาไม่ดีเราจะรู้สึกไม่ดี มันจะทำให้เขาผิดหวัง และเกิดผลกระทบตามมาอีกหลายอย่าง เราจึงเริ่มทำหลังบ้านให้มีระบบมากขึ้น มีสต๊อกแน่นรองรับการขยายแฟรนไชส์ เมื่อเรามั่นใจเราจึงเริ่มเปิดรับแฟรนไชส์เมื่อ 10
เดือนที่แล้ว ซึ่งตอนนี้มีกว่า 50 สาขา จะรับแค่ 2 สิทธิ์ในหนึ่งจังหวัด โดยเราวางแผนไว้ว่าอยากจะมี 2 สิทธิ์เต็มทุกจังหวัดภายในกลางปี 64 สำหรับคนที่สนใจแฟรนไชส์ กังวลว่าจะขายได้มั้ย คุณตั้ม บอกว่า จริงๆ แล้วด้วยตัวสินค้า ทั้งลักษณะที่มีเอกลักษณ์
ทั้งรสชาติ มันมีศักยภาพมากพอที่จะขายตัวเองอยู่แล้ว แต่เราก็ต้องมีปัจจัยหลายๆ อย่างเสริมด้วย เช่น 1. ทำเล 2. การควบคุมคุณภาพสินค้าหน้าร้าน 3. การบริการ และ 4. ทำการตลาดออนไลน์บ้าง สร้างแฟนเพจอัพเดตข้อมูลให้ลูกค้ารู้จักอยากจะขอเชิญ
ชวนอย่างจริงใจอีกครั้ง ว่านี่คือโอกาสจริงๆ ก่อนจะเต็ม ด้วยลักษณะความแตกต่างของสินค้า รสชาติที่มีเอกลักษณ์ รสสัมผัสที่อร่อยติดลิ้น ชีสดิปที่หลากหลาย คุณภาพการทอดสดหน้าร้านแบบกล่องต่อกล่อง อัตรากำไรที่เยอะพอประมาณ ความแข็งแกร่งของ
แบรนด์ ความพอใจของลูกค้าเมื่อได้ชิมหน้าร้าน อัตราการซื้อซ้ำ การบริหารจัดการหลังบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญที่สุดคือ ความจริงใจและซื่อตรงของผู้บริหารแบรนด์ที่มีต่อลูกค้า เราจึงอยากเชิญชวนผู้สนใจอย่างมั่นใจ ว่านี่คือโอกาส 2 สิทธิ์ ต่อ 1
จังหวัดเท่านั้น!!ทั้งนี้ ในวิกฤตCV-19 คุณตั้ม บอกว่า แฟรนไชซีได้รับผลกระทบ เพราะส่วนใหญ่เปิดร้านในห้างสรรพสินค้า แต่ล่าสุดร้านได้กลับมาเปิดอีกครั้ง ลูกค้ายังมาอุดหนุนต่อเนื่องเหมือนเดิม
