X

RARK Authentic Thai Cuisine โบราณลึกลับกว่า 100

ร้านอาหารไทยโบราณลึกลับกว่า 100 ปี ที่จองยากที่สุด ยอดจองเจ็มใน 1 นาที

 

ราก (RARK Authentic Thai Cuisine) ร้านอาหารไทยที่นำเสนอเมนูอาหารไทยแบบประยุกต์ โดยสองพ่อครัวอย่าง เซฟ-ทรงพล บารมีอนันต์ และ เต้า-กวี จำปานคร ที่ต้องการนำเสนออาหารไทยที่ให้ความสำคัญกับขั้นตอนการทำ

และวัตถุดิบตามฤดูกาลอย่างผลไม้ไทยและผักพื้นบ้านต่างๆ ที่เราไม่คุ้นชิน รวมถึงเมนูบางจานที่ได้รับสูตรจากตำราอาหารไทยโบราณ ซึ่งหากินได้ยากในปัจจุบัน

แต่ทั้งสองกลับนำเสนออย่างเรียบง่าย ไม่ได้มาเป็นคอร์ส แต่เสิร์ฟมาเป็นกับข้าวให้เราได้กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ในแบบไทยสไตล์และด้วยความที่เชฟทั้งสองอยาก
ให้ลูกค้าได้กินอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ เหมือนวัยเด็ก ทั้งคู่จึงเลือกร้านที่มีขนาดไม่ใหญ่โต เพื่อความใกล้ชิดแบบที่เชฟสามารถลงมือทำอาหารเองทุกจานและยกมา

เสิร์ฟได้ด้วย ให้คนที่มารู้สึกเป็นกันเองทั้งกับเชฟและแขกร่วมโต๊ะคนอื่นๆทางร้านจึงเปิดรับเพียงรอบละ 10 คน วันละ 2 รอบ ได้แก่ รอบเวลา 18.00-19.45 น.
และ 20.00-22.00 น. สำหรับวันอังคาร-ศุกร์ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์เพิ่มรอบ 16.00 น. สำหรับคนที่จองได้ต้องสั่งอาหารล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์

เพื่อให้เชฟได้วางแผนและเตรียมวัตถุดิบต่างๆ ไว้ก่อน เมื่อมาถึงจะได้ไม่เสียเที่ยว อดกินของอร่อย แต่ด้วยความที่โต๊ะมีน้อยและรับเพียงวันละ 2 รอบ ทำให้
ร้านรากติดอันดับร้านอาหารไทยจองยากที่สุดร้านหนึ่ง และทำสถิติเต็มไวภายใน 1 นาที ดังนั้นหากใครสนใจอยากลอง ขอให้ติดตามได้ที่หน้าเพจเฟซบุ๊กหรือ

อินสตาแกรมของร้าน เพราะทางร้านจะเปิดให้จองล่วงหน้า 1 เดือน ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของแต่ละเดือนเท่านั้น เสิร์ฟมาสองคำ ได้แก่ เมี่ยงปูใบมะกอกที่นำ

ใบมะกอกไปชุบแป้งทอด แล้วทาด้วยซอสกระเทียมดำ ด้านในมีส้มจี๊ดอบแห้ง กุ้งแห้งโรย และเนื้อปู มีเครื่องเคียงตัดเลี่ยนอยู่ด้านบน คำที่สองคือ ค้างคาว

เผือกแปลง เผือกทอดกรอบสองแผ่น ไส้ตรงกลางเป็นกุ้งคั่วมะพร้าว แล้วราดด้วยกะทิ ข้างบนจะเป็นแยมส้มซ่า มีเปลือกแตงโมดองและมะม่วง ด้านบนสุดเป็น
สมุนไพรและดอกไม้ออร์แกนิก จานนี้ให้กินปลากับมังคุดด้วยกันเพราะไม่ได้ใส่น้ำตาล ความหวานได้จากมังคุด ส่วนเกล็ดปลาสามารถกินได้ทั้งชิ้นเพราะทอดทั้ง

เกล็ด ใช้เป็นปลาเกล็ดอ่อน ชามนี้ใส่ทั้งหัวกะทิและมะพร้าวคั่ว แต่รสชาติไม่หนักอย่างที่คิดที่เรียกว่าโบราณเพราะเป็นสูตรจากคุณย่าของเชฟที่อายุกว่า 90 ปีทำ

ให้กิน ความพิเศษของยำวุ้นเส้นโบราณ ได้แก่ การใส่หอมแดง ถั่วลิสง กุ้งแห้ง และที่ขาดไม่ได้คือ กระเทียมเจียว ซึ่งทำให้ทั้งหน้าตาและรสสัมผัสของจานนี้

ต่างจากยำวุ้นเส้นทั่วไปที่เราเคยกิน ทางร้านนำหมูสามชั้นไปเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าวและน้ำปลาให้ไหม้นิดๆ ก่อนคลุกกับน้ำพริกกะปิ กินคู่กับเม็ดกระถิน ข้างบน

เป็นกากหมู เหมาะกับกินคู่กับข้าวหอมมะลิจากเชียงรายที่หุงกับน้ำดอกมะลิสกัดเย็น เมื่อข้าวสุกจะอบด้วยใบเตยอีกรอบตัวน้ำพริกมีรสชาติเค็มหวาน ดังนั้นเครื่อง

เคียงที่เหลือจะเป็นรสเปรี้ยวนำ ได้แก่ ผักรสเปรี้ยว เช่น ใบชะมวง ผักติ้ว ผักเสี่ยนดอง มีมะม่วงเปรี้ยวแนม และเปลือกส้ม เสิร์ฟมาพร้อมส้มตีนหมูซึ่งเป็นหมู

ส่วนคากิที่เอาไปดองให้มีรสเปรี้ยวเพื่อทำเป็นยำ วิธีกินให้เอาน้ำพริกคลุกกับข้าว กินคู่กับผักเคียงต่างๆ เมนูตามฤดูกาลที่ใส่ลิ้นจี่กับมะเขือเทศส้ม ไม่ใส่น้ำตาล
แต่ได้ความหวานจากลิ้นจี่และมะเขือเทศ แนะนำให้กินสามอย่างพร้อมกัน ทั้งลิ้นจี่ มะเขือเทศ และเนื้อเป็ด ความพิเศษของถ้วยนี้คือปลานิลที่ทางร้านใช้ และ

ทำให้ปลานิลมีรสชาติคล้ายปลาทะเล ไม่เหม็นคาว ส่วนน้ำซุปเป็นน้ำข้าวต้ม ต้มคู่กับปลา เพราะน้ำข้าวต้มจะช่วยดับกลิ่นปลา และใส่ปลาแห้งร่วมด้วย ถือเป็น
ต้มยำรสจัดตามสไตล์พื้นบ้านทางร้านนำกะทิไปทำให้ไหม้แล้วค่อยทำเป็นไอศกรีมจึงมีกลิ่นรมควัน ใส่กล้วยกวน ลูกชก และข้าวทอด เนื้อมะพร้าวน้ำหอมเผา

ข้างบนเป็นมันเผาคั่ว เวลากินให้ตักทุกอย่างเพื่อรสชาติเต็มคำ