PAÑPURI แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องหอมสัญชาติไทย
ท่ามกลางก.ร.ะ.แ.สเชี่ยวกรากของธุ.ร.กิ.จเครื่องสำอางและสุขภาพทุกวันนี้ น่าสนใจว่าไลฟ์สไตล์แบรนด์ระดับหรูที่วางตัวเองชัดเจนว่าเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก 100 เปอร์เซ็นต์อย่าง PAÑPURI จะโดดเด่นและแตกต่างอย่างไร ปุ๋ย-วรวิทย์ ศิริพากย์
Managing Director ผู้กลั่นส่วนผสมของเครื่องหอมทุกขวดจากแพสชันเพื่อผลักให้ PAÑPURI เดินทางมาถึงทุกวันนี้ มีคำตอบให้เรา
จุดเริ่มต้นของปัญญ์ปุริเริ่มจากทีสิสสมัยที่เขาศึกษาปริญญาโทด้าน Luxury and Fashion Goods Management ที่ประเทศอิตาลี
เขาเลือกวิเคราะห์ตลาดและความเป็นไปได้ของอุตสาหกรรมสปาและสุขภาพในประเทศไทย เพราะเห็นความเป็นไปได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทรัพยากรหรือจุดเด่นด้านการให้บริการของบ้านเรา
“พอกลับมาไทย เราได้ไปใช้บริการสปาดังๆ ที่ดีที่สุดสมัยนั้นซึ่งยังมีไม่เยอะมาก สิ่งที่พบคือไม่มีเจ้าไหนใช้ผลิตภัณฑ์ของไทยเลย
ตอนนั้นเราสวมหมวกฝรั่งนิดหน่อยว่าก็อยากใช้ของดีที่สุดของประเทศนั้นๆ เพราะแบรนด์ต่างประเทศเราก็ใช้มาหมดแล้ว สมัยทำงานอยู่นิวยอร์ก
เราทำงๅนหนักมากจนต้องเอาเ.งิ.นไปซื้.อความสุข ซื้.อไลฟ์สไตล์ให้รู้สึกคุ้มค่ๅเหนื่อย นอกจากเดินทางหรือช้อปปิ้ง
เวลาในแต่ละวันที่เราพอจะพักผ่อนได้ก็คือตอนอาบน้ำ ถ้าได้ใช้เจลอาบน้ำดีๆ กลิ่นหอมๆ ก็จะทำให้ชี.วิตเราดีขึ้น”
วรวิทย์ลองวิเคราะห์ช่องว่างของตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแล้วพบว่าคุณภาพของแบรนด์ไทยยังเทียบต่างชาติไม่ได้ บรรจุภัณฑ์ไม่สวย
ไม่ดึ.งดู.ดให้น่า.สั.ม.ผั.ส. และที่สำคัญคือไม่มีเรื่องราวของแบรนด์ ที่แปลกคือตัวเขาเองกลับเห็นภาพชัดว่าผลิตภัณฑ์ของตัวเอง
จะมีหน้าตาแบบไหน เพราะเขาเชื่อว่าการทำแบรนด์ที่ดีต้องมีตัวตนของเจ้าของใส่ลงไปด้วยอย่างแยกกันไม่ออก
คุณวรวิทย์ ศิริพากย์ ประธานกรรมการบริหาร บ.ริ.ษั.ท ปุริ จำกัด และผู้ก่อตั้งแบรนด์ปัญญ์ปุริ (Panpuri)
เล่าย้อนกลับไปถึงช่วงเริ่มต้นของการปลุกปั้น Panpuri ด้วยหมายมั่นต้องการปักธงเป็น “Thai Luxury Health & Beauty Brand”
ถ้าย้อนกลับไป เมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์ความงามในระดับ “Luxury Brand” เชื่อว่าคนส่วนใหญ่นึกถึงแบรนด์จากฝั่งยุโรป เพราะด้วย Heritage ที่สร้างมานาน
ในขณะที่ประเทศไทย แม้จะมีองค์ประกอบของการเป็นแบรนด์ระดับ Hi-End ได้ นั่นคือ Craftmanship
และคุณภาพวัตถุดิบท้องถิ่น แต่ที่ผ่านมายังไม่ได้นำมาต่อยอดพัฒนๅนวัตกรรม – แพ็คเกจจิ้ง และวางแผนกระบวนการด้านการตลๅด – การขๅย
ประกอบกับการพัฒนๅของประเทศไทยเมื่อหลายทศวรรษที่แล้ว มุ่งเน้น Mass Production และรับจ้ๅงผลิต (OEM)
อีกทั้งในอดีตยังมีปัจจัยความเชื่อมั่นแบรนด์ไทย ในหมู่คนไทยด้วยกันเอง และ Perception ว่าสินค้าไทย ต้องขๅยรๅคๅถูก!
ถึงปัจจุบัน “Panpuri” มีสาขาในประเทศไทยกว่า 40 สาขา ส่งออกไปตลาดต่างประเทศกว่า 20 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 300 คน
ข้อมูลและรูปภาพ: adaymagazine, thumbsup, marketeeronline, sistacafe