“บิวกิ้น พุฒิพงศ์” หนุ่มหล่อหน้าใส ทำได้ทุกอย่าง!
ตั้งแต่เข้าวงการมา บิวกิ้นคือเด็กหนุ่มที่มีพลังเหลือล้น สดใส เขาทำงานที่ตัวเองรักทั้งการด้านแสดงและร้องเพลงอย่างสุดความสามารถ เติบโตผ่านการทำงานที่มากฝีมือขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกด้านหนึ่ง เขาคือนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปี 3 จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ที่กำลังจะเรียนจบในเทอมหน้า
บิวกิ้น เกิดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2542 จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ปัจจุบันกำลังศึกษาที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (หลักสูตรนานาชาติ) มีดีกรีเป็นถึงเดือนคณะในปี 2561 อีกด้วย
บิวกิ้นใช้เวลาเพียง 3 ปีครึ่งสำหรับจบการศึกษาจากรั้วธรรมศาสตร์ ช่วงนี้เขาเลยต้องเรียนออนไลน์วนไป พร้อมโปรโมตซีรีส์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ Part 2 ไปด้วย
เรารู้จักบิวกิ้นครั้งแรกจากบทหมอเต่า ซีรีส์ รักฉุดใจนายฉุกเฉิน My Ambulance นักศึกษาแพทย์ Extern สุดขี้เล่น ด้วยบทส่งให้คนดูรักตัวละครหมอเต่ากันทั่วบ้านทั่วเมือง
ยิ่งซีนหมอเต่าเสียชี.วิต บิวกิ้นก็แสดงได้บีบหัวใจคนดูสุดๆ เรียกได้ว่าร้องไห้กันเต็มทวิตเตอร์เลยทีเดียว และทุกคนยังได้รับรู้ว่าเขาร้องเพลงเพราะมากจากซีรีส์เรื่องนี้ (มีใครในที่นี้หลงรักซีนที่เขาร้องเพลง หนาวนี้ เหมือนกันบ้างไหม เราคือเพื่อนกัน!)
หนึ่งปีถัดมา บิวกิ้นมีผลงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึง แปลรักฉันด้วยใจเธอ เขารับบทเป็นเต๋ ตัวเอกหลักของเรื่อง และร้องเพลงประกอบเช่นเคย
“สนุกกับชี.วิต ทำตามแพสชัน เรียนรู้ไปตลอด และสำคัญที่สุด คือเราต้องสุขกับทุกอย่าง” นี่คือประโยคอธิบายตัวตนของศิลปิน-นักแสดง ในช่วงเวลานี้ได้เป็นอย่างดี
ขอให้ทุกคนอ่านบทสนทนาออนไลน์ด้านล่างนี้อย่างมีความสุข ขอกระซิบอีกนิดว่า ภาพประกอบในบทสัมภาษณ์นี้ เราส่งกล้องฟิล์ม 2 ม้วน ไปให้เขาถ่ายตัวเอง แต่ก็ถ่าย… (ไม่บอกดีกว่า)
และหากใครจะเปิดเพลย์ลิสต์ของบิวกิ้นคลอไปด้วยก็ไม่ว่ากัน เพลงนี้เป็นซิงเกิลแรกจากซีรีส์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ Part 2 ครับ ผมกับพีพีได้เข้าไปแชร์มุมมองหลายอย่างเลย จริงๆ มันมาจากคอนเซปต์ของซีรีส์
ยึดมาจากเขาต้องการเพลงประมาณไหน สิ่งที่เราเข้าไปแชร์คือส่วนรายละเอียดของเพลง พวกคำต่างๆ เสน่ห์มันคือ การถูกหยิบไปเป็นเนื้อร้องหรือทำนองของเพลง
อย่างพีพี เขาแชร์มุมมองของคนธรรมดาที่ห่วงกันทุกเวลา อย่างของผมเป็นมุมมองว่า เรามีเธอคอยเป็นเซฟโซนนะ กลายเป็นประโยคที่ร้องว่า ‘Never be alone มีเธอคอยเป็น Safe Zone
เหนื่อยแค่ไหนก็หายแค่มีคนหนึ่งให้ซบไหล่’ ท่อนนี้เป็นคำที่ออกมาจากอินเนอร์ของตัวเอง รู้สึกว่าเวลาเราอยู่กับคนที่สบายใจหรืออยู่กับแฟน เหมือนได้อยู่ในเซฟโซน
ได้มีส่วนร่วมเยอะสุดเท่าที่ทำเพลงมาเลย เพราะว่าเราได้เห็นการเติบโตของเพลงตั้งแต่ดราฟต์แรก จริงๆ ไม่ได้ตัดสินอะไรมาก ส่วนใหญ่ก็ช่วยคอมเมนต์ เหมือนเข้ามาฝึก มาศึกษางานมากกว่า
โดยธรรมชาติผมชอบร้องเพลงช้าครับ ชอบร้องเพลงที่ไม่มี Movement เยอะ แบบยืนนิ่งๆ (หัวเราะ) ความชอบของเราต่อการร้องเพลงคือการใช้เสียง ค่อยๆ เรียนรู้เทคนิกการร้องไปทีละอย่าง
เรียนรู้ช่องเสียง Head Tone, Chest Tone, Mix Voice หรือว่าการทำ Vibrato เรียนรู้เรื่อง Dynamic เพลง เราชอบเรียนรู้จากเทคนิค การร้องเพลงช้ามันทำให้ได้ฝึกเทคนิคพวกนี้ พอเรียนรู้แล้วก็เท่ากับเราเข้าใจการร้องเพลงมากขึ้น
จริงๆ มันยังมีเรื่องของอารมณ์ การสื่อสารความหมายอีกนะ อย่างเพลง รู้งี้เป็นแฟนกันตั้งนานแล้ว เราได้ลองทำ ได้เรียนรู้วิธีการร้องเพลงอีกแนวบ้าง มันก็สนุกไปอีกแบบหนึ่ง เดี๋ยวนี้เริ่มฝึกมี Movement บ้าง เต้นเล็กๆ น้อยๆ บ้างก็สนุกดี
ชื่อบิวกิ้นมาจากที่คุณพ่อชอบการ์ตูนดีสนี่ย์มากๆ พี่น้องชายล้วนของเขาทั้งหมด 3 คนก็เลยชื่อเป็นการ์ตูนหมด พี่คนโตชื่อมิกกี้ คนที่สองชื่อวินนี่ (วินนี่ เดอะ พูห์) ซึ่งตัวบิวกิ้นเอง ตอนแรกก็จะได้ชื่อ อียอร์
แต่เพราะเจ้าลามันเฉื่อยเกินไป ก็เลยกลายมาเป็นชื่อ บิว แต่พอเกิดมาได้ 2 อาทิตย์คุณพ่อก็รู้สีกว่าชื่อไม่ไปกับพี่น้อง พี่คนโตก็เลยเสนอชื่อนี้ คุณพ่อชอบชื่อนี้ ก็เลยเปลี่ยนเลย นอกจากนั้นสมัยที่เขาเรียนโรงเรียนเซนต์คาเบรียล
เคยเป็นนักบอลโรงเรียน เคยเป็นกองหลังและผู้รักษาประตู อีกด้วยนะ นอกจากด้านกีฬาแล้วเรื่องการร้องเพลงของเขาเรียกว่าเป็นคนที่เสียงดีมากๆ เคยมีผลงานด้านเพลงออกมาให้เราเคยฟังกันหลายเพลง เรียกว่าทั้งกีฬา เพลง การแสดง การเรียน หนุ่มน้อยคนนี้ทำได้ดีทุกๆ ทางเลยจริงๆ
ตอนเด็กๆ ช่วงซัมเมอร์ อยู่บ้านไม่มีอะไรทำ หม่าม้าก็ส่งไปเรียนเต้น ไปเรียนคอมพิวเตอร์ ไปเรียนภาษาอังกฤษ ไปเรียนร้องเพลง ไปเรียนภาษาจีน เหมือนเขาพยามให้เราไปลองเรียนรู้สกิลล์หลายๆ อย่าง
แต่ที่ผมชอบคือร้องเพลง ชอบมากเวลาได้วอร์มเสียงหรือได้ร้องเพลงในคลาส เราเดินไปบอกหม่าม้าว่าเราอยากเรียนร้องเพลงอีก ตอนนี้เราเริ่มลุกขึ้นมาสร้างตัวตนด้านการร้องเพลง หาเรื่องราวมาเล่าเอง เหมือนเราเป็นผู้กำกับเองแล้วเหมือนกัน
ผมชอบดนตรีที่มันมีความเป็นมนุษย์ ชอบฟังเพลงเก่าๆ เวลาเราฟังเสียงแซกโซโฟนหรือเสียงเปียโนที่มาจากเครื่องเปียโนจริงๆ แล้วมันผ่อนคลาย เราสัมผัสได้ถึง Vibe ที่ดี เห็นภาพของคนที่มีความสุขกับการเล่นเครื่องดนตรี
การแสดงมันคือความสุขครับ พูดจริงๆ เลยนะ อาชีพนักแสดงมันไม่ใช่แค่สิ่งที่เราทำเพื่อหาเ.งิ.น แต่ทำเพราะมันสร้างความสุขให้กับชีวิตจริงๆ ทุกวันนี้ผมแทบจะไม่มี Hobby อะไรทำเลย เพราะว่าการได้ทำงานตรงนี้มันเติมเต็มผมไปแล้ว
ผมก็ว่าผมโชคดีนะ พอเราอยากทำอะไรก็มีคนให้โอกาสเรา มีคนให้เราได้ลองความฝันนั้น ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตจะมีโอกาสได้ทำอะไรแบบนี้ ทั้งด้านการแสดงและด้านเพลง ส่วนหนึ่งเพราะเราเอาจริงเอาจัง ตั้งใจ และมีความสุขกับมันด้วย
ข้อมูลและรูปภาพ: sanook, daradaily, trueplookpanya, readthecloud, bbillkin