X

Dolce & Gabbana ความหรูหราที่มีดีไซน์เฉพาะตัว

Dolce & Gabbana ความหรูหราที่มีดีไซน์เฉพาะตัว

ประวัติแบรนด์ Dolce&Gabbana แฟชั่นเฮ้าส์สุดหรูสไตล์อิตาลี เริ่มขึ้นเมื่อปี 1985 โดยสองนักออกแบบชาวอิตาลี Domenico Dolce ได้เรียนการออกแบบที่ซิซิลีและทำธุ-ร-กิ-จเสื้อผ้าของพ่อแม่ก่อนเริ่มทำงานดีไซเนอร์

และ Stefano Gabbana เขาเรียนจบทางด้านกราฟฟิกดีไซเนอร์และได้รับประสบการณ์เกี่ยวกับงานแฟชั่น จากการเป็นผู้ช่วยในสตูดิโอการออกแบบที่มิลาน ทั้งสองพบกันที่มิลาน โดยชื่อแบรนด์ Dolce&Gabbana มาจากนามสกุลของพวกเขาทั้งสองนั่นเอง

ทั้งสองก่อตั้งสตูดิโอที่ให้คำปรึกษาด้านแฟชั่นและการออกแบบ ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็เริ่มทำเสื้อผ้าภายใต้ชื่อแบรนด์ Dolce&Gabbana

พร้อมจัดแสดงคอลเลคชั่นเสื้อผ้าผู้หญิงออกมาครั้งแรก ในเดือนตุลาคม ปี 1985 ที่ Milan Fashion Week โดยคอลเลคชั่นนี้เป็นการนำเสนอเสื้อผ้าของผู้หญิงที่แข็งแกร่ง

มีความมั่นใจในรูปร่างของตัวเอง ซึ่งนี่นับเป็นคอลเลคชั่นแรกของแบรนด์ และใช้ชื่อว่า Real Women เนื่องจากทั้งคู่ได้ใช้ผู้หญิงในท้องถิ่นมาเป็นนางแบบบนรันเวย์

ยอดข-า-ยสิน-ค้-าจากคอลเลคชั่นแรกเป็นที่น่าผิดหวังอย่างมาก ทำให้ Dolce&Gabbana เกือบจะต้องยกเลิกคำสั่งซื้อผ้าสำหรับคอลเลคชั่นชุดที่ 2 ของพวกเขา

ซึ่งทางครอบครัวของ Domenico Dolce เสนอว่าจะช่วยเหลือเรื่องค่-า-ใ-ช้จ่-า-ยในส่วนนี้ ทำให้ผ้าเหล่านั้นพร้อมที่จะถูกส่งมายังมิลาน เพื่อการสร้างผลงานชิ้นที่สองในปี 1986 และได้เปิดร้านค้า Dolce&Gabbana เป็นแห่งแรกในปีเดียวกัน

หลังจากออกคอลเลคชั่นที่ 3 ผลงานได้รับการตอบรับดีจึงออกแบบคอลเลคชั่นที่ 4 ซึ่งได้รับขนานนามว่า The Sicilian Dress ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่มีอิทธิพลมากในวงการแฟชั่นของอิตาลี

 

จึงเริ่มส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังญี่ปุ่นและประเทศต่างๆ รวมไปถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่งในเวลาต่อมา Dolce&Gabbana เปิดบูติคแห่งแรกในญี่ปุ่นโดยร่วมมือกับ Kashiyama Group

 

เพื่อเป็นการขยายตลาดทางโซยเอเชีย หลังจากนั้นก็จัดแสดงคอลเลคชั่นเสื้อผ้าผู้ชายเป็นครั้งแรก ซึ่งพวกเขาก็ได้รับรางวัลคอลเลคชั่นสำหรับผู้ชายที่ล้ำสมัยที่สุดจาก Woolmark ในปี 1991

 

ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญกับการก้าวสู่ระดับสากลของแบรนด์ Dolce&Gabbana เมื่อนักร้องชื่อดังอย่าง มาดอนน่า หลุยส์ ชิโคนี่ (Madonna Louise Ciccone) สวมชุด Corset ที่ทำจากอัญมณี เพชร พลอย และเสื้อแจ็กเกตจากแบรนด์ Dolce&Gabbana

หลังจากนั้นดีไซเนอร์คู่หูอย่าง Domenico Dolce และ Stefano Gabbana ก็ร่วมมือกับมาดอนน่า ในการออกแบบเครื่องแต่งกายให้เธอกว่า 1,500 ชุด สำหรับการทัวร์คอนเสิร์ตระหว่างประเทศเพื่อโปรโมทอัลบั้ม Erotica

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากในตอนนั้น แต่สำหรับช่วงปี 2556-2558 นั้นยอดขายของ Dolce & Gabbana ลดตัวลง ประเด็นนี้ไม่แน่ชัดว่าเป็นเพราะความเห็นแง่ลบของ Domenico Dolce ที่ปลุกกระแสให้ชุมชน LGBTQI

เนื่องจากช่วงเวลานั้น Domenico Dolce ออกมาให้สัมภาษณ์โดยเรียกเ-ด็-กที่เกิดจากการทำเ-ด็-กหลอดแก้ว หรือ IVF จากบิดามารดาที่เป็นเพศเดียวกันว่า “เ-ด็-กสังเคราะห์” ซึ่ง Domenico Dolce ออกมาขอโ-ท-ษในช่วง 5 เดือนต่อมา

และยังเกิดด-ร-า-ม่าใหญ่ จนต้องยกเลิกงานแฟชั่นโชว์ในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เพราะโฆษณาตัวหนึ่งของแบรนด์ที่มีนักแสดงหญิงชาวเอเชียในโฆษณากินอาหารอิตาลี เช่น พิซซ่า สปาเก็ตตี้ โดยใช้ “ตะเกียบ”

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ชาวจีนไม่ได้ใช้ตะเกียบกับอาหารทุกชนิด การใช้ตะเกียบในโฆษณาชิ้นนี้ ชาวจีนจึงถือเป็นการเหมารวมและเหยียดเชื้อชาติของตน

ยังมีการใช้เสียงพากย์ของผู้ชายที่กำกับหญิงเอเชียคนนี้ โดยคอยบอกว่าจะต้องกินอาหารอิตาลีอย่างไรให้ถูกต้อง พร้อมทั้งมีการออกเสียงชื่อแบรนด์แบบผิดๆ เสมือนว่าเป็นการล้อเลียนชาวจีนเวลาพูดภาษาอังกฤษอีกด้วย

ข้อมูลและรูปภาพ: Kate xoxo, LookBook, gqthailand

Related Posts

“น้องปราง” ลูกสาวเบนซ์ พรชิตา ยิ่งโตยิ่งสวย ยิ้มหวาน ตากลม

“น้องปราง” ลูกส…

สวยมากทำเอาคนรักเด็กร้องว้าวกันหนักมาก!

โอ้โห! “น้องดิสนีย์&#…

หล่อสวยยกบ้าน เปิดภาพลูก “พลอย ชิดจันทร์”

หล่อสวยยกบ้าน เปิดภาพลูก &#…

ขึ้นเท่นเป็นลูกสาวเเห่งชาติ

ว้าว! น้องเดมี่ เเปลงโฉมเป็…

“ปุณณ์ ปุณณกันต์” เปิดความหล่อลูกชายคนโต คุณแม่นุสบา

“ปุณณ์ ปุณณกันต์&#822…

“แอลลี่” ทั้งสวยทั้งสดใส

“แอลลี่” ทั้งสว…