“ป้าพิม” บาริสต้ารุ่นเก๋า วัย 70 ปี อายุไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำตามความฝัน
ชวนมาสัมผัสความนุ่มละมุนและกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟคุณภาพดีที่บ้านหลังใหม่ของ Mother Roaster ร้านกาแฟเล็ก ๆ ในย่านตลาดน้อย ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็น Slow Bar อยู่ริมถนนมหาพฤฒาราม โดยยังคงโดดเด่นด้วยรสชาติ ความหอมอร่อยที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพไว้เช่นเดิม พร้อมเพิ่มเติมด้วยพื้นที่กว้างขวางของโลเคชันใหม่ ให้คุณได้แวะมาดื่มด่ำกาแฟคุณภาพดีจากเครื่อง ROK Presso ที่ดริปและคั่วเองจากฝีมือ Mother บาริสต้าสุดเท่ประจำร้าน
Mother Roaster ร้านนี้มีกฎอยู่ 3 ข้อ นั่นคือ หนึ่ง ร้านกาแฟที่มีแต่กาแฟ สอง ทุกเมนูไม่ใส่น้ำตาล และ สุดท้ายลู.กค้า ต้องนั่งทาน กาแฟที่ร้านเท่านั้น ส่วนเหตุผลที่เจ้าของร้านสายฮิป “ป้าพิม เพลินพิศ เรียนเมฆ” ตั้งไว้ 3 ข้อ นั่นเพราะอยากให้.ลู.กค้าดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟด้วยวิถีสโลว์ไลฟ์ และที่สำคัญคือการเป็น คาเฟ่รักษ์โลก
“คุณต้องใช้เวลาในการดื่มด่ำกาแฟแต่ละแก้ว ที่สำคัญที่สุดถ้าคุณถือแก้วไป คุณเดินไปท่องเที่ยวแถวนี้ คุณถือแก้วไป หมดตรงไหน วางตรงนั้น อะไรเกิดขึ้น ขยะของชุมชน
ที่กลัวมากที่สุด คือ มันจะตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ถามว่าเราเสียโอกาสไหมที่เราไม่ขายแก้วแบบถือออกไป เราเสียโอกาสเยอะนะคะ เพราะคนมาเดินเที่ยว เขาอยากถือแก้วแล้วเดินถ่ายรูป แต่เราก็คิดว่าแบบนั้นไม่ใช่ลู.กค้าเรา ถ้าลู.กค้าเรา คุณต้องยอมนั่งได้”
ขณะที่แรงบันดาลใจในการเปิดร้านกาแฟ ป้าพิมเล่าย้อนให้ฟังว่า เดิมเป็นคนชอบทานกาแฟอยู่แล้ว จนเมื่อชีวิตล่วงเลยมาถึงวัยเกษียณ จึงอยากทำอะไรที่สร้างความสุขให้ตัวเองได้ในบั้นปลายชีวิต “บ้านเราเป็นคนกินกาแฟกันทั้งบ้าน และเราก็มานั่งสำรวจตัวเองว่า ในชีวิตที่ผ่านมามีอะไรที่เรายังไม่ได้ทำ และเราอยากทำบ้าง คำตอบสุดท้ายที่ได้ก็คือกาแฟนี่แหละค่ะ
สิ่งที่เราจะทำ เราทำไม่เหมือนคนอื่นเขา เราไม่ได้มีเครื่องชงเอสเปรสโซ เราเป็นกาแฟทำมือ แม้กระทั่งการบดกาแฟ การดริปกาแฟ หรือการทำเครื่องล็อคเอสเปรสโซ ซึ่งจะเป็นการชงเอสเปรสโซโดยไม่ได้ใช้เครื่อง เป็นการใช้มือทั้งนั้น
มาเธอร์ โรสเทอร์ แห่งนี้ คุณแม่ใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างเรียบง่ายป.ลู.กผัก เลี้ยงแมวเลี้ยงหมาตามประสา จนกระทั่งลู.กชายมาชวนไปออกบู๊ธขายกาแฟที่ เค วิลเลจ ย่านสุขุมวิท “ปกติชอบดื่มกาแฟอยู่แล้ว ชงดื่มเองเป็นประจำ ลู.กชายเห็นว่าอยู่บ้านเหงาๆ แม่ก็พอมีความรู้ด้านกาแฟอยู่บ้างจากการตระเวนชิมกาแฟหลายๆ ที่ เลยชวนไปเปิดป๊อพอัพบู๊ธขายกาแฟช่วงเสาร์-อาทิตย์ ปรากฏว่าผลตอบรับดีมาก”
หลังออกบู๊ธกระแสตอบรับจากลู.กค้าคอกาแฟเป็นที่น่าพอใจ คุณแม่สั่งสมประสบการณ์ด้านกรรมวิธีชงกาแฟจากการแบ่งงานกันทำระหว่างแม่และลู.กร่วม 1 ปี ขายดีมากขึ้น จึงตัดสินใจแยกตัวออกมาเปิดร้านเป็นของตนเอง เปิดร้านเล็กๆ ไม่ติดแอร์ เพราะอยากสร้างบรรยากาศเป็นกันเองกับลู.กค้า ส่วนด้านหน้าร้านมีไม้เลื้อยพอให้รู้สึกสดชื่นได้บ้างเมื่อทอดสายออกไปรอบๆ
“มาเธอร์ โรสเทอร์” ตั้งอยู่บนถนนมหาพฤฒารามได้เพียงแค่เดือนกว่าๆ แต่กลับมีลู.กค้าให้ความสนใจอย่างล้นหลาม คุณแม่เล่าย้อนไปถึงช่วงแรกอย่างอารมณ์ดีว่า วันแรกที่เปิดร้านตรงกับวันพระใหญ่มาฆบูชา แม้หลายอย่างจะยังไม่เข้าที่เข้าทางดีนัก แต่กลับมีลู.กค้าเดินเข้ามาอุดหนุน นั่นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของร้านกาแฟแห่งนี้
แม้อายุจะมากแต่ไม่ใช่อุปสรรคในการทำสิ่งที่ตนเองรัก คุณแม่ใส่ใจทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่คั่วเมล็ดกาแฟเองทุกวัน ศึกษาการเก็บเมล็ดกาแฟแต่ละชนิดว่าควรเก็บไว้นานเท่าไรจึงจะเหมาะ เลือกใช้น้ำแข็งก้อนกลมขนาดใหญ่ที่ทำเองเพื่อคงความอร่อยของกาแฟเอาไว้ให้นาน
ลงมือบดเมล็ดกาแฟด้วยแรงอันแข็งขันสำหรับกาแฟทุกแก้ว ตั้งใจชงเพื่อให้ลู.กค้าได้ดื่มกาแฟรสชาติดีโดยสามารถเลือกเมล็ดพันธ์ุกาแฟที่มีเองได้ตามใจชอบ ทั้งเมล็ดไทยและเมล็ดจากต่างประเทศ หรือบอกว่าต้องการแบบไหนคุณแม่ก็สามารถจัดให้ได้เช่นกัน เรียกได้ว่าเป็น “สโลว์บาร์” เพราะทำเองทุกขั้นตอนและพิถีพิถันอย่างแท้จริง
ความแข็งแรงที่มาจากการดูแลสุขภาพและหมั่นออกกำลังกาย ทำให้มีพละกำลังเกินกว่าวัย การใช้เครื่องมือชงกาแฟในรูปแบบแมนนวลอาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนในวัยนี้ แต่คุณแม่สามารถใช้เครื่องมือได้อย่างเชี่ยวชาญจนกลายเป็นความเคยชินที่ตนเองคลุกคลีอยู่กับกาแฟมานาน
“บดเมล็ดกาแฟเหมือนยกดัมเบล ยิ่งกว่าปั่นจักรยานอีก คาร์ดิโออย่างไงอย่างงั้น” นอกจากภาพที่ใครหลายคนเห็นคุณแม่ยืนอยู่กับเครื่องร็อกด้วยความตั้งใจ อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าใครเห็นเป็นต้องอดยิ้มไม่ได้และพูดเป็นเสียงเดียวกันคือ
“คุณแม่แต่งตัวจ๊าบมาก” ด้วยการแต่งกายที่ดูวัยรุ่น กับท่าทางรังสรรค์กาแฟอย่างชำนาญ ทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของร้านมาเธอร์ โรสเทอร์ ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ “ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจ ป้าเอาเสื้อผ้าของลู.กมาใส่เลยเป็นแบบนี้ รองเท้าเหมือนกัน ใส่ผ้าใบแล้วทะมัดทะแมงดี กลายเป็นอัตลักษณ์ของเราไปเลย” คุณแม่ กล่าว
ในระหว่างพูดคุย สองมือนั้นไม่ได้หยุดพัก ยังชวนพูดคุยอย่างอารมณ์ขันช่วยดึงลู.กค้าให้อยู่ภายในร้านแห่งนี้ได้ไม่รู้จักเบื่อ แม้ว่าจะมีเมนูให้เลือกไม่มากนัก เพราะเป็นความตั้งใจของร้าน ที่อยากให้ลู.กค้าได้ดื่มกาแฟดีๆ สักแก้วตามเมนูที่ทางร้านมีให้
“อยากให้คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ที่อาจไม่มีใครดูแลหรือไม่ได้มีอาชีพ ลองลุกขึ้นมาดูว่ายังมีอะไรให้ทำอีกเยอะแม้ว่าอายุจะมากแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าเลือกที่จะลงมือทำหรือเปล่า ไม่ได้หมายความว่าเราโชคดีที่มายืนอยู่ตรงนี้ แต่เป็นเพราะเราใฝ่มันมากกว่า เราคว้ามาต่างหาก ไม่มีใครโชคดีทุกคน ทุกสิ่งไม่ได้มาง่ายๆ” คุณแม่ กล่าวทิ้งท้าย
ข้อมูลและรูปภาพ: nationtv, khaosod, matichonacademy, gourmetandcuisine, food.trueid, Mother Roaster, readthecloud, bkkmenu