คุณจอยซ์ มนักษร นักดับเพลิงหญิงไทย เล่าประสบการณ์

จากกรณีเกิดไฟป่าครั้งร้ๅยแรงขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา รัฐบาลสหรัฐฯ จึงระดมสรรพกำลังเข้าควบคุมไฟป่า พร้อมเร่งบรรเทๅความเ.ดื.อ.ดร้.อ.นให้พลเมืองของสหรัฐที่ได้รับผลกระท.บโดยเร่งด่วน

เพราะขณะนี้ไฟป่าทำลายพื้นที่ไปแล้วมากกว่า 3 ล้ๅน 6 แสนเอเคอร์ หรือกว่า 9 แสนไร่ ขณะที่บ้านเรืองและสิ่งป.ลู.กสร้างต่างๆ ถูกทำลๅยไปมากกว่า 7 หลัง

รวมทั้งมีผู้เสียชี.วิตจากเ.ห.ตุการณ์ดังกล่าวอย่างน้อย 26 คน ทางภาครัฐฯ จำเป็นต้องใช้เจ้ๅหน้ๅที่ดับเพลิงพร้อมทีมงานจำนวนมากเพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์

คุณมนักษร เมฆฉาย หรือคุณจอย หญิงไทย อายุ 30 ปี หนึ่งในเจ้ๅหน้ๅที่กู้ชีพขั้นพื้นฐาน หรือที่หลายคนเรียกกันว่า EMT (Emergency Medical Technician) ซึ่งเป็นหนึ่งในนักดับเพลิง

เล่าให้ฟังถึงความฉุกละหุกหลังถูกส่งตัวไปที่ป่าสงวนแห่งชาติ Sequoia เพื่อดับไฟป่ากำลังโหมไหม้ ว่า นี่คือเดือนที่ 7 ของการปฏิบัติหน้าที่ ก่อนหน้านี้เคยถูกส่งไปดูแลผู้ป่.ว.ยไว.รั.สโ.ควิ.ด-1.9

ที่ตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อนที่จะถูกเรียกตัวให้กลับมาช่วยดับไฟป่า เพราะอยู่ใกล้กับพื้นที่เกิดเ.ห.ตุมากที่สุด และในครั้งนี้ถือเป็นการลงสนามเพื่อดับไฟป่าครั้งแรกในชี.วิต

นี่คือเรื่องราวของสาวไทยคนหนึ่ง ชื่อว่า คุณจอยซ์ เธอได้โพสต์เล่าประสบการณ์ การเป็นนักดับเพลิงหญิงไทยในอเมริกาไว้อย่างน่าสนใจ โดยระบุว่า ก่อนหน้านี้เธอคือโค้ชสอนสเกตน้ำแข็ง

และได้มีโอกาสเป็นโค้ชสอนนักกีฬาทีมชาติไทย จากนั้นได้ย้ายมาอยู่อเมริกาได้ประมาณ 5 ปี และเริ่มยึดอาชีพพนักงานดับเพลิงของรัฐแคลิฟอร์เนีย และพนักงานกู้ชี.พฉุ.กเ.ฉิ.นมาได้ 1 ปีกว่าแล้ว

คุณจอยซ์ เล่าว่า การทำงานนี้ไม่ได้กำหนดว่าต้องสูงเท่าไหร่ น้ำหนักเท่าไหร่ เเต่การทดสอบร่างกาย โ.ห.ดมากๆ ต้องใส่เสื้อเกราะน้ำหนัก 25 โลที่บ่า มีน้ำหนักแปะอีกข้างละ 12.5 กิโล รวมแล้วใส่ชุด 50 กิโล ซึ่งหนักกว่าตัวเองที่มีน้ำหนักแค่ 40 กิโลกรัม (ปัจจุบันน้ำหนัก 60 กิโลกรัม)

ในการสอบต้องลากดัมมี่ไปมาน้ำหนัก 185 พาว (90 กิโล) โดยสอบทั้งหมด 4 รอบ และหลังจากผ่านการทดสอบอันนี้ที่เรียกว่า CPAT แล้ว ยังมีการทดสอบร่างกายตลอดระยะเวลาการสมัคร ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ แบบที่คิด

อีกด่านที่ยาก คือ เรียนกู้ชี.พฉุ.กเ.ฉิ.น (EMT) ที่นี่นักดับเพลิงทุกคนต้องมี EMT ด้วย เรียนที่อเมริกาหลักสูตรนี้ 1-2 ปีเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ซึ่งโชคดีเรียนอินเตอร์มา แต่เพราะความยากทำให้ท้.อแท้และคิดดร็อปหลายรอบ

แต่ก็ได้คำพูดจากครู ทำให้ฮึดสู้ว่า “ถ้าวันนึงจอยซ์ต้องเรียก 911 เพราะมีสมาชิกในบ้านป่.ว.ยหรือประสบอุบัติเ.ห.ตุ จอยซ์อยากได้คนที่ไม่รู้เรื่องและรักษๅไม่เป็นหรือผิดวิธีมาช่วยคนในครอบครัวมั้ย?”

จากแรกๆ ที่มีนักเรียน 40 คน ตอนจบผ่านหลักสูตรออกมาแค่ 10 คน โดยเธอเป็นผู้หญิงและคนเอเชียคนเดียวที่สอบผ่านโดยที่ไม่ได้เกิดและโตที่อเมริกาเลย

ด่านสุดท้าย สาวไทย บอกว่า งานนี้ต้องเป็นคนจิตใจเเข็งเเรง เจองานนึงช่วงโควิด ต้องปั้มหัวใจคนป่.ว.ย ซึ่งปั้มแล้วไม่ฟื้น ทำให้เสียใจมาก จนนักดับเพลิงรุ่นพี่บอกว่า

“ถ้าวันนี้จอยซ์ปั้มหัวใจและคนที่ปั้มเสียชี.วิต แล้วร้องไห้ก็ไม่ต้องทำงานนี้แล้ว เพราะเขาปั้มมา 100 คน ฟื้นจริงๆ แค่ 1-2 คน จอยซ์จะร้องไห้ 99 คนไม่ได้”

และสิ่งสำคัญที่สุดของอาชีพนี้ คือ ความกล้าหาญ ถ้าวันนี้เห็นไฟไหม้ตึกและตึกกำลังถล่ม ทุกคนวิ่งออกมาจากตึก แต่คุณจะต้องกล้าวิ่งสวนคนอื่นเข้าไปในไฟและตึกที่กำลังถล่มลงมา

โดยที่ไม่รู้ว่าจะได้กลับออกมาหรือไม่ และพร้อมที่จะเเชร์ลมหายใจสุดท้ายกับเพื่อนๆ พี่น้องดับเพลิงในทีมซึ่งไม่ใช่ญาติ นี่แหละคืองานนักดับเพลิง

สุดท้าย รๅยได้จากอาชีพนี้ สาวไทยบอกคร่าวๆ เริ่มต้นที่ $7000-$8000 หรือ แสนห้า-สองแสนบๅทไทย ต่อเดือน ซึ่งทำงานแค่ 10 วัน

สวัสดิการราชการที่อเมริกาเยอะมากๆ เเต่ต้องเเลกกับสิ่งที่เล่าไป งานนี้หนักมาก พนักงานดับเพลิงช่วยทุกคน ไม่ว่าจะทหารตำรวจ หรือแม้กระทั่งคนไร้บ้าน

ข้อมูลและรูปภาพ: thousandreason, sentangsedtee, newtv