ช่างซ่อมรถสๅวสวยยอดกตัญญู ชี.วิตต้องพลิกผันมาเป็นช่าง!
สมาย ชุติกาญจน์ เหิรอดิศัย สๅวสวยช่างซ่อมรถ ถึงแม้ใครจะมองว่าเธอเป็นช่างซ่อมรถ ต้องมือเลอะคราบน้ำมัน เล็บดำ ก็ไม่เป็นไร
เพราะเธอขอเพียงได้ช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวให้มีกินมีใช้ก็พอ ไม่ใช่แค่เธอที่มีความสุข แต่ครอบครัวก็มีความสุขไปด้วย
โดยเธอเริ่มจับประแจซ่อมรถตั้งแต่อายุ 14 ปี นอกจากนี้เธอยังรับงานรีวิวผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์
และการไลฟ์สดโชว์ทักษะการซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ ผ่านเพจเฟซบุ๊กสมายการช่างอีกด้วย
“กิจการอู่ทำมาตั้งแต่รุ่นพ่อ เมื่อระยะเวลาผ่านไป ช่วงที่ครอบครัวลำบาก ทางบ้านมีปัญหา เศรษฐกิจไม่ค่อยดี
ร้านก็เหมือนจะไปไม่ร.อ.ด เราก็เลยตัดสินใจเบรกการเรียนไว้ แล้วก็มาช่วยงานพ่อกับแม่ก่อน เพราะว่าเขา 2 คนอายุมากแล้ว
พี่สๅว 2 คน ก็เลยต้องออกไปหารๅยได้เสริมจากส่วนอื่นๆ ที่พอเข้ามาจุนเจือครอบครัวได้ ทีนี้รๅยได้มันไม่พอ
เราก็เลยต้องออก (ลาออกจากโรงเรียน) มาช่วยเหลือ เราก็อยากสานต่อกิจการของพ่ออยู่แล้ว เลยรับช่วงต่อตรงนี้
จะว่าไปตอนนั้นมันก็เหมือนคนล้มแล้วลุกขึ้นยืนลำบาก มันต้องใช้เวลาและความอดทนมาก กว่าจะมายืนได้แบบนี้ก็นานพอสมควรค่ะ”
เวลาผ่านไป 4 ปี ปัจจุบันเธอกลายเป็นสๅวแ.ซ่.บไปแล้ว แต่ที่ยังเหมือนเดิม คือ การสานต่ออาชีพ “ช่างซ่อมรถ” แห่งร้าน “เหิรการช่าง”
ย่านพุทธมณฑลสาย 8 อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ที่เป็นกิจการของทางบ้านมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อยังหนุ่ม
ควบคู่ไปกับงานรีวิวผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์ และการไลฟ์สดโชว์ทักษะการซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “สมายการช่าง” ที่ผู้ติดตามกว่า 516,309 คน
ด้วยหน้าตาที่สะสวยและฝีมือการช่างที่ไม่ธรรมดา อาจกล่าวได้ว่า ช่างสมาย คือ ช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์ที่ฮอตที่สุดในขณะนี้เลยก็ว่าได้!!
แต่กว่าที่ชื่อเสียงของสมายจะกลายเป็นที่รู้จัก และครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีอย่างทุกวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย
เธอกล่าวว่า ด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นกับครอบครัวในตอนนั้น ทำให้ตนเองต้องตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน เพื่อมาช่วยทำงานตั้งแต่อายุได้เพียง 14 ปี
ขณะนั้นไม่มีแม้แต่หน้าร้านทำรถ ต้องอาศัยพื้นที่ฟุตปาธแคบๆ ริมถนนที่เสี่ยงต่อการถูกเฉี่ยวชนได้ทุกเมื่อ
“ช่วงที่ลำบากอยู่ในช่วงย้ายบ้านพอดี ที่ที่เราไปอยู่มันไม่ได้มีหน้าร้าน แล้วก็ไม่สามารถทำร้านรถได้ มันจะโดนตัดกำลังเรื่องร้านซ่อมรถไปเลยส่วนนึง
กลายเป็นพี่สๅว 2 คน ที่ช่วยเหลือพวกเราอยู่ในครอบครัวใหญ่ รๅยได้จากพี่สๅวเข้ามาหนุนที่บ้านแทนหน้าร้านซ่อมรถ
ด้วยว่าเรามีภาระหนี้สินต่างๆ นานา ทีนี้พอไม่มีรๅยได้จากร้านซ่อมรถ เลยรู้สึกว่าต้องทำอะไรแล้ว ก็เลยไปเปิดร้านซ่อมรถอยู่ริมถนน
ที่เขามีการจับจองที่เอาไว้ก่อน แล้วก็ใช้ทำร้านข้าวแกง ร้านขายของเล็กๆ น้อยๆ มันอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างดี ช่วงนั้นลำบากค่ะ มีแค่ไฟ หลังคาเป็นหลังคาเตี้ยๆ
แล้วก็ร้อนมาก อยู่ติดถนน เป็นริมฟุตปาธลึกแค่ประมาณเมตรครึ่ง หน้ายาวประมาณ 3-4 เมตร ถ้าเกิดนั่งออกไปนิดนึง รถก็อาจจะปาดก้นเราได้เลย
เสาหลักของครอบครัว สมายอยากยกให้พ่อนะคะ พ่อเป็นช้างเท้าหน้า สมายก็แค่เดินตามและทำในสิ่งที่พ่อทำไว้อยู่แล้ว หนูทำงานหาเ.งิ.นเข้ามา แล้วแม่เป็นคนดูแลเรื่องบัญชี ก็ประมาณ 6 หลักได้อยู่
แต่ก็ไม่ได้เป็นเ.งิ.นเก็บซะทีเดียว เพราะเรามีค่าใช้จ่าย มันก็ใช้เวลาเป็นปีเหมือนกัน ก็ทำให้เรามีรๅยได้ขึ้นมาจุนเจือในร้าน
ต้องขอขอบคุณมากๆ เลย ณ จุดนี้ มันสามารถช่วยพลิกให้หนูจากจุดที่เหมือนจะจมแล้ว ให้มีลมหายใจแล้วก็ฟื้นขึ้นมาได้”
ข้อมูลและรูปภาพ: khaosod, mgronline, LIVE Style, springnews