Orient Express ธุ ร กิ จ รถไฟหรู ที่ราคา แ พ ง ยิ่งกว่าบิน First Class
“200,000 บ า ท ” คือราคาเริ่มต้นของตั๋วรถไฟ Venice Simplon-Orient-Express ซึ่งถ้าเราเอาเงินจำนวนนี้ไปซื้อตั๋วเครื่องบิน เราจะได้ที่นั่งระดับ First Class เลยทีเดียว โดยเจ้าของตั๋วราคา สุ ด โ ห ด นี้ เป็นบริษัทรถไฟแห่งหนึ่งในยุโรป ที่ก่อตั้งมาใกล้ ๆ กับการรถไฟแห่งประเทศไทย ด้วยอายุ 139 ปี
แต่แทนที่จะถูกแซวว่า เป็นรถไฟโบราณ ที่ใช้มาตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของการก่อตั้ง เหมือนอย่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กลับดึงเอา “ความเก่าแก่” ของรถไฟมาใช้ให้เป็นประโยชน์ จนสามารถดึงดูดให้คนพากันมาจองตั๋ว ถึงขนาดที่บางช่วงตั๋ว Sold Out ในทุกเส้นทางการเดินรถ ที่น่าสนใจคือ รถไฟที่เรากำลังจะพูดถึงนี้ ยังมีจุดเริ่มต้นมาจาก “Orient Express” ซึ่งถูก 20th Century นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์อีกด้วย แล้วเรื่องราวของรถไฟ Orient Express น่าสนใจอย่างไร ?
รถไฟ Orient Express ก่อตั้งขึ้นในปี 1883 โดยวิศวกรหนุ่มชาวเบลเยียมที่ชื่อว่าคุณ Georges Nagelmackers ซึ่งจุดเริ่มต้นของธุ ร กิ จ Orient Express นั้นราวกับบทละค เพราะว่าคุณ Nagelmackers ที่กำลังเสียใจจากการ “อกหัก” เลยหนีไปพักใจที่สหรัฐฯ
และในตอนนั้นเองที่ทำให้เขาได้พบกับ “รถไฟ Pullman” ซึ่งเป็นรถไฟตู้นอนสุดหรู อย่างที่ไม่เคยเจอในยุโรปมาก่อน และความประทับใจในวันนั้น ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นแรงบันดาลใจ ในการก่อตั้ง ธุ ร กิ จ ในลักษณะคล้าย ๆ กัน ที่สำคัญคือคุณ Nagelmackers ไม่ได้เป็นแค่วิศวกรธรรมดา ๆ แต่ยังเป็นลูกชายของนายธนาคารผู้ร่ำรวย จึงไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันที่เขาจะมาก่อตั้ง ธุ ร กิ จ รถไฟได้ ดังนั้นเมื่อเขาเดินทางกลับมาที่ยุโรปอีกครั้ง
เขาจึงได้ตัดสินใจก่อตั้ง Orient Express ธุ ร กิ จ รถไฟ ที่มีการตกแต่งอย่างหรูหรา สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมอาหารชั้นเลิศ และการบริการอย่างดี โดยรถไฟขบวนนี้จะออกเดินทางจากปารีสสู่อิสตันบูล
ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางไป-กลับ ทั้งหมดประมาณ 13 วัน เรียกได้ว่า สำหรับในสมัยนั้น นี่ถือเป็นการเดินทางที่สะดวกสบาย และยังใช้เวลาไม่นานนัก จนทำให้รถไฟขบวนนี้ กลายเป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูง อย่างรวดเร็ว
ซึ่งคุณ Nagelmackers ก็ได้ต่อยอด ธุ ร กิ จ รถไฟสุดหรู ด้วยการเปิดโรงแรม Compagnie Internationale des Grands Hôtels เพื่อใช้รองรับผู้โดยสารที่มองหาที่พัก ก่อนและหลังการเดินทางอีกเรื่องที่น่าสนใจคือ เหตุการณ์ในปี 1934 เมื่อคุณ Agatha Christie นักเขียนนวนิยายชื่อดัง ที่มีฉายาว่า “ราชินีแห่งอาชญากรรม” ได้ตีพิมพ์นวนิยายสืบสวนที่ชื่อว่า Murder on the Orient Express หรือ “ฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส”
จนกลายเป็นหนึ่งในผลงานอันโด่งดัง และทำให้ใครหลายคนจดจำ Orient Express ในฐ า น ะ ของรถไฟปริศนา ซึ่งต่อมาในปี 2018 นวนิยายเล่มนี้ และรถไฟ Orient Express ก็ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ที่มีนักแสดงระดับแนวหน้ามาร่วมแสดง ทั้งคุณ Johnny Depp, คุณ Willem Dafoe และคุณ Kenneth Branagh
แม้ว่า ธุ ร กิ จ ของ Orient Express ดูเหมือนจะไปได้ดีแต่จริง ๆ แล้ว ในขณะที่ ธุ ร กิ จ รถไฟแห่งนี้กำลังขับเคลื่อนเข้าสู่ปีที่ 94บริษัทก็ได้ตัดสินใจ “ยุติกิจการ”เนื่องจากผู้คนมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น
จนส่งผลให้ผู้โดยสารรถไฟลดน้อยลง อีกทั้งลูกค้าส่วนใหญ่ของ Orient Express ยังเป็นกลุ่มคนที่มี ฐ า น ะ ทำให้พวกเขามีทางเลือกในการเดินทางที่เยอะกว่าคนทั่ว ๆ ไป จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะหันไปใช้บริการอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์ได้มากกว่า.. อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ยังไม่ใช่การปิดตำนานของ Orient Express
เพราะต่อมาในปี 1982 หรือหลังจากนั้น 5 ปี นัก ธุ ร กิ จ ชาวอเมริกันที่ชื่อว่าคุณ James Sherwood ได้เข้ามาเขียนตำนานบทใหม่ โดยเขาออกเดินทางไปทั่วยุโรป เพื่อซื้อรถไฟ Orient Express ที่ถูกทิ้งกลับมาทั้งหมด 35 คัน และมีการฟื้นฟูสภาพรถไฟที่เสื่อมโทรม ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
อีกทั้งยังมีการตั้งชื่อใหม่ให้กับ ธุ ร กิ จ นี้ว่า Venice Simplon-Orient-Express ซึ่งจะถูกบริหารภายใต้บริษัท Belmond ที่เขาเป็นคนก่อตั้ง นอกจากนี้ สื่อต่างชาติหลายแห่ง ยังได้ยกให้คุณ Sherwood เป็นผู้ชุบชีวิตให้กับรถไฟ Orient Express
โดยเขาได้มีการเปลี่ยนเส้นทางของรถไฟเป็น “ลอนดอน-เวนิส” ซึ่งถือเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักเดินทางทั่วโลก และภายหลังก็เริ่มมีการเพิ่มเส้นทางอื่น ๆ ตามมา ในขณะเดียวกัน ด้วยความที่คุณ Sherwood มีประสบการณ์ในการทำ ธุ ร กิ จ โรงแรมมาก่อน
เขาจึงได้นำหลักการบริหารจัดการโรงแรม มาประยุกต์ใช้เข้ากับ ธุ ร กิ จ รถไฟ ให้กลายเป็นการบริการแบบโรงแรม 5 ดาว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ตั้งแต่ห้องอาหารระดับ Fine Dining ที่ออกแบบเมนูโดยเชฟชื่อดัง, บาร์เครื่องดื่ม, ฟิตเนส ไปจนถึงสปา
จากเดิมที่มุ่งเน้นไปที่ ธุ ร กิ จ “การขนส่ง” แต่เมื่อปัจจุบัน คนเปลี่ยนไปใช้การเดินทางอื่นที่รวดเร็วกว่า ดังนั้น สิ่งที่ตามมาก็คือ การปรับจุดยืนทาง ธุ ร กิ จ ให้กลายเป็น “ธุ ร กิ จ ท่องเที่ยว” เน้นการขายประสบการณ์ และใช้ความเก่าแก่ มาเป็นจุดขาย ที่เทคโนโลยี ก็ไม่สามารถทดแทนได้ รวมถึงเปลี่ยนการเดินทางอย่างช้า ๆ ให้เป็นช่วงเวลาการพักผ่อน ราวกับโรงแรมเคลื่อนที่
สำหรับในปัจจุบันบริษัท Belmond และธุ ร กิ จ รถไฟ Venice Simplon-Orient-Express ได้ถูกควบรวมกิจการโดยบริษัท LVMH บริษัทแม่ของ Dior และ Louis Vuitton โดยดีลการซื้อขายกิจการนี้มีมูลค่าถึง 105,640 ล้าน บ า ท นอกจากนี้ รถไฟหรู Pullman ที่เป็นแรงบันดาลใจในการก่อตั้ง Orient Express
ปัจจุบันก็มาอยู่ภายใต้เครือ Belmond เช่นกัน และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “British Pullman” เนื่องจากมีการเปลี่ยนมาใช้เส้นทางหลักที่สหราชอาณาจักร รวมถึงเป็นหนึ่งในรถไฟยอดนิยมที่มีคนจองเต็มอยู่ตลอด
ส่วนแบรนด์รถไฟในชื่อ “Orient Express” ก็ยังไม่ได้หายไปไหน เพราะในปี 2017 เชนโรงแรมรายใหญ่อย่าง Accor ได้เข้าซื้อหุ้น Orient Express กว่า 50% จากบริษัททางรถไฟแห่งชาติฝรั่งเศส และจะมีการนำรถไฟดั้งเดิม 7 คันกลับมาให้บริการ ซึ่งจะมีการเปิดตัวรถไฟ Orient Express ที่ถูกรีโนเวตใหม่ ในปี 2023